คำแนะนำสำหรับคริสต์จักร เล่มที่ 1
คำแนะนำสำหรับคริสต์จักร เล่มที่ Vol.1
สารบาญ
คำแนะนำสำหรับคริสต์จักร
(ภาคหนึ่ง)
คำนำ
การตระเตรียมเพื่อต้อนรับพระเยซู
พวกเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีสทุกคนกำลังรอคอยเวลาที่ พระเยซูจะเสด็จกลับมา รับเขาไปอยู่บ้านที่สวยงามซึ่งพระองค์ได้ เสด็จไปเตรียมไว้สำหรับเขา ในบ้านที่แผ่นดินสวรรค์นั้นไม่มี CCh1 1.1
ความผิดบาป ความผิดหวัง ความหิวโหย ความยากจน ความ เจ็บป่วย และความตาย เมื่ออรรคสาวกโยฮันคิดถึงสิทธิพิเศษที่ บรรดาผู้ซื่อสัตย์จะได้รับ ท่านได้กล่าวว่า “จงดูเถิดพระบิดา โปรดประทานความรักแก่เราทั้งหลายเพียงไร ที่เราจะได้ชื่อว่าเป็น บุตรของพระเจ้า...บัดนี้เราเป็นบุตรของพระเจ้าและยังไม่ปรากฎ ว่าต่อไปเบื้องหน้านั้นเราจะเป็นอย่างไร เรารู้แล้วว่าเมื่อพระองค์ จะเสด็จมาปรากฎเราทั้งหลายจะเป็นเหมือนพระองค์(๑ โยฮัน ๓:๑,๒) CCh1 1.2
การมีลักษณะนิสัยเหมือนพระเยซูคือจุดมุ่งหมายของ พระเจ้าสำหรับพลไพร่ของพระองค์ ตั้งแต่สมัยแรกเริ่มพระเจ้า ทรงมีแผนการที่จะให้สมาชิกของครอบครัวมนุษย์ที่พระองค์ทรง สร้างขึ้นตามแบบฉายาของพระองค์มีลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกับพระ เจ้า เพื่อจะให้สำเร็จตามแผนการนี้ บรรพบุรุษคู่แรกของเราใน สวนเอเด็นจึงได้รับคำสั่งสอน จากพระคริสต์และเหล่าฑูตสวรรค์ ของพระองค์โดยการสนทนาตัวต่อตัว แต่ภายหลังที่มนุษย์ได้ทำ ผิดบาปแล้วเขาก็ไม่สามารถจะสนทนากับบรรดาชาวสวรรค์โดยวิธี นี้ได้อีก CCh1 1.3
โดยเหตุที่พระเจ้าไม่ปรารถนาจะละทิ้งมนุษย์ไว้โดยปราศ- จากการแนะนำสั่งสอน พระองค์จึงทรงเลือกวิธีที่จะสำแดงน้ำ พระทัยของพระองค์ให้ปรากฎแก่พลไพร่ของพระองค์ วิธีที่สำคัญ ที่พระเจ้าทรงใช้คือการตรัสกับมนุษย์โดยอาศัยศาสดาพยากรณ์... ชายหญิงที่นำข่าวของพระเจ้าไปแจ้งแกพลไพร่ของพระองค์... พระเจ้าได้ตรัสแก่พวกยิศราเอลว่า “ถ้าจะมีผู้ทำนายท่ามกลางเจ้า ทั้งหลายแล้ว เราเป็นยะโฮวาจะสำแดงแก่คนนั้น และเราจะตรัส สนทนาด้วยเขาในความสุบินนิมิต” (อาฤทธโม ๑๒:๖) CCh1 2.1
พระเจ้าทรงมุ่งหมายที่จะให้พลไพร่ของพระองค์ได้รับคำ แนะนำสั่งสอนให้มีความรู้ ให้เขาเข้าใจมิใช่แต่เพียงเหตุการณ์ ต่าง ๆ ในสมัยที่เขามีชีวิตอยู่เท่านั้น แต่ให้เข้าใจถึงเหตุการณ์ที่จะ เกิดขึ้นในภายหน้าด้วย “แท้จริงพระยะโฮวามิได้ทำสิ่งใดเว้นแต่ พระองค์สำแดงแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ คือผู้พยากรณ์ซึ่งพระองค์ ดำริไว้นั้น” (อาโมศ ๓:๗) ข้อนี้แสดงให้เห็นความแตกต่าง ระหว่างพลไพร่ของพระเจ้า... “บุตรของความสว่าง” ...กับพวก ที่อยู่ฝ่ายโลก CCh1 2.2
กิจการของศาสดาพยากรณ์มิใช่แต่เพียงกล่าวคำทำนายถึง เหตุการณ์ล่วงหน้าเท่านั้น ยังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมาก โมเซศาสดา พยากรณ์ของพระเจ้าซึ่งเขียนหนังสือหกเล่มของพระคัมภีร์ได้เขียน ข้อความเกี่ยวกับกาลอนาคตไว้เพียงเล็กน้อย โฮเซอาได้กล่าวถึง กิจการของโมเซไว้โดยนัยอันกว้างขวางว่า “โดยผู้พยากรณ์คน หนึ่ง พระยะโฮวาได้ทรงนำพวกยิศราเอลขึ้นมาจากประเทศ อาย- ฆุบโต และโดยผู้พยากรณ์คนหนึ่งพระองค์ได้ทรงเลี้ยงเขาไว้” (โฮเซอา ๑๒:๑๓) CCh1 3.1
ศาสดาพยากรณ์มิใช่ผู้ที่มนุษย์แต่งตั้งขึ้น หรือเขาตั้งตัวเอง ขึ้นเป็นศาสดาพยากรณ์ การเลือกบุคคลผู้หนึ่งเป็นศาสดาพยากรณ์ อยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้าองค์เดียวผู้ทรงทราบจิตใจของมนุษย์ ในประวัติเกี่ยวกับพบไพร่ของพระเจ้า การที่พระองค์ทรงเลือก มนุษย์ทั้งชายหญิงให้เป็นผู้พูดแทนพระองค์ในสมัยต่างๆกันนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญ CCh1 3.2
ศาสดาพยากรณ์เหล่านี้...ชายและหญิงเหล่านี้ซึ่งพระเจ้า ทรงเลือกให้เป็นผู้ติดต่อกับมนุษย์แทนพระองค์..ได้พูดและเขียน สิ่งที่พระเจ้าทรงสำแดงให้ปรากฎแก่เขาในนิมิตรอันบริสุทธิ์ ข่าว ของศาสดาพยากรณ์ประกอบด้วยพระคำอันประเสริฐของพระเจ้า โดยอาศัยบรรดาศาสดาพยากรณ์เหล่านี้สมาชิกของครอบครัวมนุษย์ ได้รับคำแนะนำสั่งสอนให้เข้าใจถึงการต่อสู้ซึ่งดำเนินไปเพื่อจิต วิญญาณของมนุษย์....คือการต่อสู้ระหว่างพระคริสต์และเหล่าฑูต สวรรค์ของพระองค์กับซาตานและฑูตของมัน เราได้รับคำแนะนำ สั่งสอนให้เข้าใจการต่อสู้นี้ในสมัยที่สุดปลายของแผ่นดินโลก และ วิธีที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้สำหรับระวังรักษากิจการของพระองค์ และการช่วยกล่อมเกลาอุปนิสัยของสมาชิกที่ประกอบขึ้นเป็นหมู่ มนุษย์ทั้งชายหญิงซึ่งกำลังคอยต้อนรับพระเยซู CCh1 3.3
เหล่าอรรคสาวกและผู้เขียนข้อความตอนสุดท้ายของพระ คัมภีร์ได้วาดภาพเหตุการณ์ในสมัยที่สุดปลายไว้ให้เราเห็นอย่างแจ่ม แจ้ง เปาโลได้เขียนถึง “ยุคที่เต็มด้วยภัยอันตราย” และเปโตร เตือนเราให้ระวับคนที่เยาะเย้ยเหยียดหยามศาสนา, คนที่ทำตาม ความปรารถนาแห่งจิตใจตนเองและถามว่า “คำสัญญาเกี่ยวกับการ ที่พระคริสต์จะเสด็จกลับมานั้นอยู่ที่ไหน?” ในสมัยนี้คริสตจักร จะต้องต่อสู้เพราะโยฮันเห็นซาตานขณะที่มัน “ออกไปต่อสู้กับ บรรดาคนทั้งหลายที่ยังเหลืออยู่” CCh1 4.1
ผู้เขียนพระคัมภีร์เหล่านี้ทราบว่าพระเจ้าทรงมีแผนการที่จะ ประทานแสงสว่างพิเศษและความช่วยเหลือแก่พลไพร่ของพระองค์ ก่อนที่พระเยซูจะเสด็จกลับมา CCh1 4.2
อรรคสาวกเปาโลกล่าวว่าคริสต์จักรที่รอคอยการเสด็จกลับ มาของพระคริสต์..คริสต์จักรของคณะเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีส.. จะต้องได้รับของประทานจากพระเจ้าโดยบริบูรณ์ (โกรินโธ ๑:๗,๘) คริสต์จักรนี้จะต้องมีความสามัคคีปรองดองกัน มีความเจริญทางจิต ใจโดยสมบูรณ์ และมีผู้นำที่ดี มีเนื้อความแห่งคำพยากรณ์ เพราะ ในคริสต์จักรนี้พระเจ้าได้โปรดให้บางคนเป็นอรรคสาวก และให้ บางคนเป็นศาสดาพยากรณ์ เป็นผู้เผยแพร่กิตติคุณ เป็นศิษยา- ภิบาล และอาจารย์ (เอเฟโ ๔:๑๑) CCh1 5.1
อรรคสาวกโยฮัน ได้กล่าวถึงสมาชิกของคริสต์จักรในสมัย ที่สุดปลาย.. “คริสต์จักรที่ยังเหลืออยู่” ว่าเป็นผู้ที่ถือรักษาพระ บัญญัติของพระเจ้า (วิวรณ์ ๑๒:๑๗) ตามข้อความที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ คริสต์จักรนี้จึงเป็นคริสต์จักรที่ถือรักษาพระบัญญัติของพระเจ้า คริสต์จักรที่ยังเหลืออยู่นี้มี “คำพยานของพระเยซู” คือ “วิญญาณ แห่งคำพยากรณ์” (วิวรณ์ ๑๙:๑๐) CCh1 5.2
เราเห็นได้อย่างแจ่มแจ้งว่าตามแผนการของพระเจ้า คริสต์- จักรเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีส...คริสต์จักรแห่งคำพยากรณ์...มี เนื้อความแห่งคำพยากรณ์ในท่ามกลางคริสต์จักรเมื่อได้จัดตั้งคริสต์- จักรนี้ขึ้น การที่พระเจ้าตรัสกับพลไพร่ของพระองค์ในสมัยที่เต็ม ไปด้วยการต่อสู้อย่างทรหดและเต็มด้วยภัยอันตรายเช่นเดียวกับที่ รู้สึกตัวไม่ว่านางตกอยู่ในท่ามกลางสิ่งแวดล้อมอะไร และนางไม่ ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างรอบๆตัวนาง ศาสนาจารย์ไว้ท์ได้อ้าง ถึงข้อความในหนังสืออาฤทธโม ๒๔:๔,๑๖ “ผู้ที่ได้ยินคำพระเจ้า ผู้ที่ได้เห็นความฝันมาแต่ผู้ทรงฤทธิ์ที่สุด แต่ตายังลืมอยู่” CCh1 5.3
ศาสนาจารย์ไว้ท์ได้อธิบายแก่คนทั้งหลายว่านางอี.จี.ไว้ท์ไม่ ได้หายใจตลอดเวลาที่นางอยู่ในนิมิต และนางได้เปิดหนังสือ ดานิเอล ๑๐:๑๗ และอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่ ดานิเอลในระหว่างที่นางอยู่ในนิมิต ดานิเอลกล่าวว่า “ข้าพเจ้า ไม่มีกำลัง และไม่มีลมหายใจในตัวข้าพเจ้าเลย” แล้วศาสนาจารย์ ไว้ท์ได้เชิญคนทั้งหลายที่ปรารถนาจะพิสูจน์ให้เห็นข้อเท็จจริงออก มาพิจารณาดูนางอี.จี.ไว้ท์ในขณะที่นางเห็นนิมิต ศาสนาจารย์ ไว้ท์เปิดโอกาสให้ทุกคนพิจารณาดูนางอี.จี.ไว้ท์ในเวลาที่นางอยู่ ในนิมิตได้เสมอ และเขามีความพอใจถ้าเขาสามารถจะหาแพทย์ มาตรวจนางอี.จี.ไว้ท์ระหว่างที่นางเห็นนิมิตร CCh1 8.1
ขณะที่ฝูงชนห้อมล้อมเข้ามาใกล้เขาก็สามารถจะมองเห็นได้ ว่านางอี.จี.ไว้ท์ไม่ได้หายใจ แต่หัวใจของนางยังคงเต้นตามปกติ และพวงแก้มของนางมีสีแดงเรื่อตามธรรมชาติ เขาได้นำกระจก บานหนึ่งมาถือไว้ตรงหน้านาง แต่ไม่มีไอชื้นจับบนกระจกนั้น แล้วเขาเอาเทียนไขมาจุดและถือไว้ใกล้จมูกและปากนาง แต่เปลว เทียนอยู่นิ่งไม่หรี่ลง พวกที่เฝ้าดูอยู่ทราบว่านางไม่ได้หายใจ นาง เคลื่อนไหวไปมารอบ ๆ ห้อง และยกแขนขึ้นอย่างสง่างาม ขณะ ที่นางเปล่งเสียงพูดอย่างสั้น ๆ เกี่ยวด้วยสิ่งที่พระเจ้าทรงสำแดงให้ ปรากฎแก่นาง เช่นเดียวกับดานิเอล ในตอนแรกนางรู้สึกอ่อน เพลียไม่มีกำลังแล้ว พระเจ้าได้ประทานกำลังอันเข็มแข็งแก่นาง” (ดานิเอล ๑๐:๗,๘,๑๘,๑๙) CCh1 8.2
นางอี.จี.ไว้ท์อยู่ในนิมิตสองชั่วโมง ตลอดเวลาสองชั่วโมง นางไม่ได้หายใจแม้เพียงครั้งเดียว เมื่อนิมิตสิ้นสุดลงแล้วนางได้ สูดลมหายใจยาว นางหยุดครู่หนึ่งแล้วหายใจอีก และในไม่ช้าก็ หายใจตามธรรมดา ในเวลาเดียวกันนางเริ่มมองเห็นสิ่งที่อยู่แวด ล้อมนาง และทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นรอบ ๆ ตัวนาง CCh1 9.1
นางมาณธา อมาดอม หญิงผู้หนึ่งที่ได้เห็นนางอี.จี.ไวท์ อยู่ในนิมิตได้กล่าวคำบรรยายไว้ดังต่อไปนี้... CCh1 9.2
“ในนิมิตดวงตาของนางลืมโพลง นางไม่หายใจ แต่นาง ขยับเขยื้อนไหล่แขนและมืออย่างงามสง่า แสดงท่าทางว่านางได้ เห็นอะไรบ้าง ไม่มีใครสามารถจับมือหรือแขนของนางให้เคลื่อน ไหวได้ นางมักจะกล่าวถ้อยคำคำเดียว และบางครั้งก็กล่าวทั้งประ โยค ซึ่งแสดงให้ผู้ที่อยู่ล้อมรอบนางทราบถึงภาพที่นางมองเห็นทั้ง ที่ในสวรรค์และแผ่นดินโลก CCh1 9.3
“คำแรกที่นางกล่าวในนิมิตคือ “รัศมีภาพ” เสียงนี้ดังอยู่ ใกล้ในตอนแรกแล้วดูเหมือนจะค่อยๆเงียบหายไปในระยะใกล้ บางครั้งนางก็กล่าวซ้ำเช่นนี้... CCh1 10.1
“ไม่มีความตื่นเต้นในท่ามกลางพวกที่เฝ้าดูอยู่ในเวลาที่นาง อี.จี.ไว้ท์เห็นนิมติ ไม่มีอะไรที่ทำให้พวกเหล่านั้นกลัว ทุกสิ่ง ทุกอย่างสงบเงียบ... CCh1 10.2
“เมื่อนิมิตสิ้นสุดลงแล้ว นางอี.จี.ไว้ท์มองไม่เห็นแสง สว่างที่ส่องจากสวรรค์ และกลับรู้สึกตัวว่านางอยู่ในแผ่นดินโลก อีกครั้งหนึ่ง นางถอนใจใหญ่แล้วหายใจตามธรรมดาและร้องว่า “มืด” แล้วร่างของนางก็อ่อนเปลี้ยไม่มีกำลัง” CCh1 10.3
เราจะต้องกลับมาพูดกันถึงนิมิตสองชั่วโมงที่ในโรงเรียนต่อ ไป นางอี.จีไว้ท์ได้เขียนบรรยายถึงนิมิตนี้ต่อมาในภายหลังว่า CCh1 10.4
“ข้าพเจ้าได้เห็นสิ่งที่ข้าพเจ้าได้เห็นแล้วเมื่อสิบปีก่อน เกี่ยวกับการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ระหว่างพระคริสต์กับซาตานซ้ำอีกครั้ง หนึ่ง และพระจ้าโปรดให้ข้าพเจ้าเขียนบรรยายถึงสิ่งที่ข้าพเจ้า ได้เห็น” CCh1 10.5
ในนิมิตดูเหมือนนางอี.จี.ไว้ท์จะมองเห็นภาพต่างๆที่ ปรากฎอยู่ต่อหน้านาง ในตอนแรกดูเหมือนนางจะรู้สึกว่านางอยู่ ในสวรรค์และนางได้เห็นความผิดบาปของลูซิเฟอร์และการที่ลูซิ- เฟอร์ถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ แล้วนางได้เห็นการสร้างโลกและ เห็นบรรพบุรุษคู่แรกของเราในบ้านของเขาที่ในสวนเอเด็น นาง เห็นคนทั้งสองพ่ายแพ้ต่อการทดลองของงู และได้ถูกขับไล่ออก จากสวนเอเด็น ภาพต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องราวในพระคัมภีร์ผ่านไป ต่อหน้านางตามลำดับอย่างรวดเร็ว นางได้เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ เกิดขึ้นกับพวกหัวหน้าครอบครัวและศาสดาพยากรณ์ของพวก ยิศราเอล แล้วนางได้เห็นชีวิตและความตายของพระเยซูคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอดของเรา และได้เห็นพระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์และ ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นมหาปุโรหิตของเรานับตั้งแต่นั้นมา ต่อจากนี้ นางได้เห็นเหล่าสาวกออกไปประกาศกิตติคุณประเสริฐตลอดถึง ปลายแผ่นดินโลก แล้วต่อมาก็ถึงยุคที่มีการละทิ้งความเชื่อถือเดิม แล้วก็ถึงยุคแห่งความมืด แล้วนางได้เห็นนิมิตเกี่ยวกับการปฏิวัติ ทางศาสนา นางเห็นบุรุษและสตรีผู้กล้าหาญที่ยอมสละชีวิต เพื่อความสัตย์จริง นางอี.จี.ไว้ท์ได้เห็นภาพเกี่ยวกับการพิจารณา พิพากษาซึ่งได้เริ่มในสวรรค์ในปีค.ศ.๑๘๔๔ต่อมาจนถึงสมัยของ เรา แล้วนางเห็นเหตุการณ์ในอนาคต และเห็นพระคริสต์เสด็จมา ท่ามกลางหมู่เมฆแห่งสวรรค์ นางได้เห็นภาพเหตุการณ์ในระยะ พันปี และได้เห็นพิภพใหม่ CCh1 10.6
นางอี.จี.ไว้ท์ได้มองเห็นภาพต่าง ๆ เหล่านี้อย่างแจ่มชัด และภายหลังที่นางกลับมาบ้านแล้วนางได้เขียนบรรยายสิ่งต่างๆ ที่นางได้เห็นและได้ยินในนิมิต ต่อมาอีกประมาณหกเดือนมี หนังสือเล่มเล็กบรรจุข้อความ ๒๑๙ หน้า ซึ่งหนังสือนี้มีชื่อว่า การต่อสู้ขับเคี่ยวระหว่างพระคริสต์และเหล่าฑูตสวรรค์ของ พระองค์กับซาตานและฑูตของมัน CCh1 11.1
ประชาชนต้อนรับหนังสือเล่มเล็กนี้ด้วยความพึงพอใจ เพราะหนังสือนี้ได้บรรยายถึงเหตุการณ์ต่างๆก่อนสมัยของคริสต์- จักรไว้อย่างแจ่งชัด และได้ชี้แจงถึงแผนการของซาตานและวิธี ที่มันพยายามจะล่อลวงพวกที่อยู่ในคริสต์จักรและพวกที่อยู่ฝ่ายโลก ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของแผ่นดินโลก พวกแอ๊ดเวนตีสรู้สึกขอบ คุณที่พระเจ้าตรัสกับเขาในสมัยที่สุดปลายนี้โดยอาศัยเนื้อความแห่ง คำพยากรณ์ตามที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้ CCh1 12.1
เรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ขับเคี่ยวครั้งใหญ่ซึ่งนางอี.จี.ไว้ท์ ได้เขียนไว้ในหนังสือเล่มเล็กนี้ เกี่ยวด้วยของประทานฝ่ายวิญญาณ จิต ได้นำเอามาพิมพ์ไว้ในครั้งหนึ่งตอนท้ายของหนังสือ Early Writings และข้อความในหนังสือนั้นยังปรากฎอยู่ทุกวันนี้ CCh1 12.2
แต่เมื่อคริสต์จักรเจริญขึ้นและเวลาผ่านพ้นไป พระเจ้า ได้โปรดให้นางอี.จีไว้ท์เห็นนิมิตอีกหลายครั้ง เกี่ยวกับเรื่องราว ในการต่อสู้ขับเคี่ยวนี้โดยละเอียด และนางอี.จี.ไว้ท์ได้เขียนเรื่อง ราวเกี่ยวกับนิมิตที่เห็นซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ระหว่างปี ค.ศ.๑๘๗๐ และ ๑๘๘๔ หนังสือนี้เขียนไว้สี่เล่มด้วยกันเรียกว่า “เนื้อความแห่งคำ พยากรณ์” (The Spirit of Prophecy) หนังสือเรื่อง “แผนการ แห่งความรอด” (Story of Redemption) กล่าวถึงเหตุการณ์ ที่สำคัญ ๆ เกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างพระคริสต์กับซาตานที่นางได้ เขียนจากหนังสือเล่มนี้ หนังสือเล่มใหม่นี้ได้จัดพิมพ์เป็นหลาย ภาษา และหลายคนได้เห็นภาพต่าง ๆ เกี่ยวกับนิมิตแห่งการต่อสู้ ขับเคี่ยวระหว่างพระคริสต์กับซาตาน ต่อมาภายหลังนางอี.จี.ไว้ท์ ได้เขียนหนังสืออีกห้าเล่มในชุด “Conflict of the Ages” คือ Patriarchs and Prophets, Prophets and Kings, The Desire of Ages, Acts of the Apostles, และ The Great Controversy ในหนังสือเหล่านี้นางอี.จี.ไว้ท์ได้บรรยายถึงเหตุการณ์ทั้งหมด เกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างพระคริสต์กับซาตานไว้โดยละเอียด CCh1 12.3
หนังสือเหล่านี้ซึ่งมีเรื่องราวเกี่ยวกับพระคัมภีร์ตั้งแต่แรก สร้างโลกจนถึงสมัยของพวกคริสเตียน และมีเรื่องราวต่อไปจนถึง สมัยที่สุดปลายได้ช่วยให้ประชาชนได้เรียนรู้และเข้าใจถึงพระเจ้า และช่วยให้คนเหล่านั้นมีกำลังใจเข้มแข็ง หนังสือเหล่านี้ช่วยให พวกเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีสเป็น “บุตรของความสว่าง” และ “บุตร ของกลางวัน” ตามเรื่องราวที่มีปรากฎในหนังสือเหล่านี้เราจะได้ เห็นคำสัญญาของพระเจ้าสำเร็จโดยบริบูรณ์ในข้อความที่ศาสดา พยากรณ์อาโมศได้กล่าวไว้ว่า CCh1 13.1
“แท้จริงพระยะโฮวามิได้ทำสิ่งใดเว้นแต่พระองค์สำแดง แก่ผู้รับใช้ของพระองค์คือผู้พยากรณ์ที่พระองค์ได้ดำริไว้นั้น” (อาโมศ ๓:๗) CCh1 14.1
นางอี.จี.ไว้ท์ได้เขียนกล่าวถึงการที่พระเจ้าทรงสำแดงเหตุการณ์ต่างๆให้ปรากฎแก่นางในนิมิต และนางได้กล่าวถึงเรื่องราว เกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างพระคริสต์กับซาตานไว้ในหนังสือ เหล่านี้ว่า CCh1 14.2
“โดยอาศัยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าได้ สำแดงเหตุการณ์ต่างๆเกี่ยวกับการต่อสู้ขับเคี่ยวระหว่างความดีกับ ความชั่วให้ปรากฎแก่ผู้เขียนข้อความในหนังสือเหล่านี้ บางครั้ง บางคราวพระเจ้าได้โปรดให้ข้าพเจ้าเห็นนิมิตเกี่ยวกับการต่อสู้อัน ยิ่งใหญ่ระหว่างพระคริสต์ผู้เป็นเจ้าชีวิตเป็นผู้ประทานความรอดแก่ เราทั้งหลาย กับซาตานเจ้าแห่งความชั่วร้ายผู้ให้กำเนิดความผิดบาป และเป็นคนแรกที่ล่วงละเมิดบทบัญญัติอันบริสุทธิ์ของพระเจ้า การ ต่อสู้นี้คงดำเนินต่อไปตลอดทุกยุคทุกสมัย CCh1 14.3
เมื่อพระวิญญาณของพระเจ้าโปรดให้ข้าพเจ้าเข้าใจความ จริงอันสำคัญยิ่งเกี่ยวกับพระคำของพระองค์ และโปรดให้ข้าพเจ้า ได้เห็นภาพเหตุการณ์ต่างๆในอดีตและอนาคต พระเจ้าได้ตรัส สั่งข้าพเจ้าให้บอกคนอื่นๆให้ทราบถึงสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสำแดง ให้ปรากฎแก่ข้าพเจ้า เพื่อจะให้ข้าพเจ้าทราบเรื่องราวของการต่อสู้ ขับเคี่ยวระหว่างพระคริสต์กับซาตานในอดีต และโดยเฉพาะ อย่างยิ่งพระองค์ทรงปรารถนาให้ข้าพเจ้าบอกเรื่องราวเหล่านี้แก่ ผู้อื่น เพื่อเขาจะได้ทราบถึงการต่อสู้ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นโดยเร็ว” CCh1 14.4