คำแนะนำสำหรับคริสต์จักร เล่มที่ 1

2/123

สิ่งที่พระเจ้าทรงสำแดงให้ปรากฏแก่ศาสดาพยากรณ์

ครั้งหนึ่งตามที่เราได้ทราบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่พวก ยิศราเอล พระยะโฮวาได้ตรัสบอกพวกยิศราเอลถึงวิธีที่พระองค์ ทรงติดต่อเกี่ยวข้องกับเขาโดยอาศัยศาสดาพยากรณ์ พระองค์ ตรัสว่า: CCh1 15.1

“ถ้าจะมีผู้ทำนายท่ามกลางเจ้าทั้งหลายแล้ว เราเป็นยะโฮวา จะสำแดงแก่คนนั้น และเราจะตรัสสนทนาด้วยเขาในความสุบิน นิมิต” (อาฤทธโม ๑๒:๖) CCh1 15.2

นบทก่อนนี้ท่านได้อ่านเรื่องราวของนิมิตเกี่ยวกับการต่อสู้ ระหว่างพระคริสต์กับซาตาน ตามเรื่องที่อ่านท่านได้ทราบว่าเวลาที่ นางอี.จี.ไว้ท์เห็นนิมิตได้มีสิ่งแปลงปลาดเกิดแก่นางทางร่างกาย อาจจะมีใครสักคนหนึ่งถามว่าเหตุไรพระเจ้าจึงโปรดให้นางอี.จีไว้ท์ เห็นนิมิตโดยวิธีนี้ การที่พระเจ้าทรงกระทำเช่นนี้ ก็เพราะพระ องค์ทรงปรารถนาจะให้มนุษย์เกิดความไว้วางใจ และเพื่อแสดงให้ ทุก ๆ คนทราบว่าพระเจ้าตรัสกับศาสดาพยากรณ์จริง ๆ นางอี.จี. ไว้ท์ไม่ใคร่จะพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างที่นางอยู่ในนิมิตบ่อยนัก แต่ครั้งหนึ่งนางได้กล่าวว่า “พระเจ้าโปรดให้ประกาศข่าวเหล่านี้ เพื่อให้ทุก ๆ คนมีความเชื่ออย่างมั่นคงว่า ในสมัยที่สุดปลายนี้เรา จะมีความไว้วางใจในเนื้อความแห่งคำพยากรณ์” CCh1 15.3

เมื่อกิจการของนางอี.จี.ไว้ท์เจริญก้าวหน้า เราสามารถจะ นำข้อความในพระคัมภีร์มาพิสูจน์ให้เห็นผลของงานนี้ ตามข้อ ความที่ปรากฏว่า “ท่านจะรู้จักเขาเพราะผลของเขา” แต่การที่จะ ให้บังเกิดผลนั้นต้องใช้เวลานาน และพระเจ้าได้แสดงหลักฐาน เกี่ยวกับนิมิตที่พระองค์ทรงสำแดงให้ปรากฏแก่นางอี.จี.ไว้ท์ เพื่อ ช่วยให้คนทั้งหลายมีความเชื่อในนิมิตนั้น CCh1 16.1

แต่พระเจ้ามิได้ทรงสำแดงนิมิตทุก ๆ ครั้งให้ปรากฏต่อหน้า ประชาชน และโปรดให้เขาได้เห็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์เกี่ยวกับร่าง กายของผู้เห็นนิมิต ในข้อพระคัมภีร์ตอนต้นของบทนี้เราได้ทราบ ว่าพระเจ้ามิใช่เพียงแต่ จะสำแดงพระองค์เอง ให้ปรากฏแก่ศาสดา พยากรณ์ “ในนิมิต” เท่านั้น แต่พระองค์จะตรัสสนทนากับเขา ในความฝัน ความฝันนี้คือความฝันเกี่ยวกับคำพยากรณ์ตามที่ ดานิเอลได้เขียนไว้ว่า... CCh1 16.2

“อยู่มาในปีแรกแห่งรัชกาลของราชาเบละซาซัร กษัตริย์ ประเทศบาบุโลน ดานิเอลเมื่อนอนหลับได้ฝันเป็นนิมิต เขาจึง ได้จดนิมิตนั้นไว้ บรรยายไปตามเรื่องที่เขาได้เห็นนั้น” CCh1 16.3

ตามที่ดานิเอลได้กล่าวถึงนิมิตที่พระเจ้าทรงสำแดงให้ ปรากฏแก่เขามีอยู่หลายครั้งที่ดานิเอลกล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้เห็น นิมิตในเวลากลางคืน” นางอี.จี.ไว้ท์ก็ได้เห็นนิมิตบ่อย ๆ และก็มี บ่อยครั้งที่พระเจ้าโปรดให้นางอี.จี.ไว้ท์เห็นนิมิตในเวลากลางคืน ขณะที่จิตใจของนางได้รับการพักผ่อนอย่างสงบ เราได้อ่านข้อความ ที่นางอี.จี.ไวท์เขียนถึงเรื่องเหล่านี้ว่า “ในนิมิตเวลากลางคืน พรเจ้าได้ทรงสำแดงบางสิ่งให้ปรากฏแก่ข้าพเจ้าอย่างแจ่มแจ้ง” หรือพระเจ้าตรัสกับศาสดาพยากรณ์บ่อย ๆ ในความฝันเกี่ยวกับ คำพยากรณ์ อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นเกี่ยวด้วยความฝัน เกี่ยวกับคำ พยากรณ์หรือนิมิตในตอนกลางคืน กับความฝันอย่างธรรมดา ใน ปี ค.ศ. ๑๘๖๘ นางอี.จี.ไว้ท์ได้เขียนบรรยายถึงเรื่องนี้ว่า:- CCh1 17.1

“มีความฝันหลายอย่างที่เกิดจากสิ่งธรรมดาสามัญในชีวิต ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระวิญญาณของพระเจ้า มีความฝันที่ไม่ เป็นจริงเช่นเดียวกับนิมิตที่ไม่เป็นจริง ซึ่งซาตานเป็นผู้บันดาลให้ เกิดขึ้น แต่ความฝันที่มาจากพระเจ้านับรวมอยู่ในจำพวกนิมิตตาม พระคำของพระเจ้า เมื่อเราพิจารณาจากเรื่องที่ผู้ฝันเล่า และ สังเกตจากกรณีย์ที่พระเจ้าประทานความฝันนั้น เราก็จะเห็นได้ว่า มีสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าความฝันนั้นเป็นจริง” CCh1 17.2

ครั้งหนึ่งในสมัยเมื่อนาง อี.จี.ไวท์มีอายุมากแล้ว ศาสนา จารย์ดับบลิว ซี ไว้ท์ บุตรชายของนางซึ่งพยายามค้นคว้าหาความรู้ เพื่อจะนำไปสอนผู้ที่ไม่มีความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวกับพระเจ้ามากนัก ได้ถามมารดาของเขาถึงเรื่องที่เกี่ยวกับความฝันว่า “คุณแม่ครับ คุณแม่พูดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่พระเจ้าทรงสำแดงให้ปรากฏแก่คุณแม่ใน เวลากลางคืนบ่อย ๆ คุณแม่พูดถึงความฝันที่พระเจ้าทรงชี้แจงให้ คุณแม่เข้าใจสิ่งต่าง ๆ เราทุกๆคนต่างก็มีความฝันกันทั้งนั้น คุณ แม่ทราบได้อย่างไรว่า พระเจ้าตรัสสนทนากับคุณแม่ในความฝัน ที่คุณแม่พูดถึงบ่อย ๆ ?” CCh1 18.1

“แม่ทราบเรื่องนี้เพราะ...” นางอี.จี.ไว้ท์ตอบ “ทูต สวรรค์องค์เดียวกับทูตผู้สื่อข่าวซึ่งยืนอยู่เคียงข้างแม่ คอยแนะนำ สั่งสอนแม่ในความฝันตอนกลางคืน ได้ยืนอยู่เคียงข้างแม่และช่วย สอนแม่ในนิมิตเวลากลางวันด้วย” ในเวลาอื่น ๆ นางอี.จี.ไว้ท์ได้ กล่าวถึงทูตสวรรค์องค์นี้ว่าเป็น “ทูตสวรรค์” “ผู้นำของข้าพเจ้า” “ผู้ตักเตือนสั่งสอนข้าพเจ้า” ฯลฯ CCh1 18.2

ไม่มีสิ่งที่สับสนวุ่นวายในความคิดของศาสดาพยากรณ์ ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการที่พระเจ้าทรงสำแดงนิมิตให้ปรากฏในตอน กลางคืน เพราะเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับนิมิตนั้นแสดงให้เราเห็น ได้อย่างแจ่มชัดว่านิมิตนั้นมาจากพระเจ้า CCh1 18.3

ในเวลาอื่น ๆ ขณะที่นางอี.จี.ไว้ท์กำลังอธิษฐาน พูดหรือ เขียนหนังสือ พระเจ้าได้โปรดให้นางเห็นนิมิต คนทั้งหลายที่อยู่ รอบ ๆ นางไม่ทราบว่านางเห็นนิมิต นอกจากเขาจะสังเกตเห็นว่า นางหยุดครู่หนึ่งถ้านางกำลังอธิษฐานหรือพูดในที่ชุมนุมชน ครั้ง หนึ่งนางอี.จี.ไว้ท์ ได้เขียนถึงเรื่องนี้ไว้ว่า CCh1 19.1

“ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังอธิษฐานด้วยใจร้อนรน ข้าพเจ้าไม่ รู้สึกว่ามีอะไรอยู่รอบ ๆ ข้าพเจ้า ในห้องที่ข้าพเจ้าอธิษฐานมีแสง สว่าง และข้าพเจ้าได้ฟังข่าวสำหรับที่ประชุมซึ่งดูเหมือนจะเป็นที่ ประชุมใหญ่ของคริสตจักร ในบรรดานิมิตหลายครั้งที่พระเจ้า โปรดประทานแก่นางอี.จี.ไว้ท์ ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปีที่นางได้ ปรนนิบัติรับใช้พระองค์ นิมิตที่ยาวที่สุดกินเวลานานถึงสี่ชั่วโมง และนิมิตที่สั้นที่สุดกินเวลาเพียงครู่เดียว บ่อยครั้งที่นิมิตกินเวลา นานครึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้นเล็กน้อย แต่ไม่มีกฎเกณฑ์กำหนด ให้เป็นที่แน่นอนได้ว่านิมิตครั้งหนึ่ง ๆ กินเวลานานเท่าใด เราได้ อ่านข้อความที่อรรคสาวกเปาโลได้เขียนไว้ว่า CCh1 19.2

“เมื่อคราวก่อนพระเจ้าได้ตรัสทางพวกผู้พยากรณ์ทีละเล็ก ละน้อยด้วยอาการหลายวิธีแก่บรรพบุรุษ” CCh1 19.3

พระเจ้าทรงสำแดงสิ่งต่าง ๆ ให้ปรากฏแก่ศาสดาพยากรณ์ โดยอาศัยนิมิต แต่ศาสดาพยากรณ์มิได้เขียนในระหว่างที่ยังอยู่ใน นิมิต พระเจ้ามิได้บังคับให้ศาสดาพยากรณ์ทำงานเหมือนกับว่า เขาเป็นเครื่องจักร พระเจ้ามิได้ประทานถ้อยคำที่เขากล่าวแก่ประ ชาชน นอกจากในโอกาสที่หาได้ยาก แม้ทูตสวรรค์ก็ไม่ได้นำ ศาสดาพยากรณ์ให้เขียนถ้อยคำที่พระเจ้าตรัส ภายหลังที่ได้เห็น นิมิตแล้วศาสดาพยากรณ์ก็เข้าใจเหตุการณ์ต่างๆที่พระเจ้าทรง สำแดงให้ปรากฏแก่เขา และศาสดาพยากรณ์ได้พูดหรือเขียน ถ้อยคำที่จะช่วยแนะนำสั่งสอนผู้ฟัง ทำให้เขาเข้าใจข้อความเหล่า นั้นไม่ว่าเขาจะอ่านข่าวที่ศาสดาพยากรณ์เขียน หรือได้ยินศาสดา พยากรณ์พูด CCh1 19.4

ดราอาจจะถามว่าศาสดาพยากรณ์มีความรู้ความเข้าใจในสิ่ง ต่าง ๆ ได้อย่างไร ? ศาสดาพยากรณ์ได้รับคำชี้แจงและคำแนะนำ สั่งสอนที่เขาจะต้องนำไปสอนประชาชนอย่างไร ? เช่นเดียวกับที่ ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวในการที่พระเจ้าได้โปรดให้ศาสดาพยากรณ์ เห็นนิมิต ก็ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวในการที่ศาสดาพยากรณ์จะรับ นิมิตที่พระเจ้าโปรดให้เขาเห็น อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่พระเจ้า ทรงสำแดงให้ปรากฏแก่ศาสดาพยากรณ์ในนิมิตเป็นสิ่งที่ประทับใจ เขา สิ่งที่เราเห็นประทับใจเราได้อย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าสิ่งที่เราได้ยิน ฉันใด เหตุการณ์ที่พระเจ้าทรงสำแดงให้ปรากฏแก่ศาสดาพยากรณ์ ในนิมิตก็เป็นสิ่งที่ประทับใจเขาอย่างลึกซึ้งฉันนั้น CCh1 20.1

ในบทก่อนบทนี้...บทที่กล่าวถึงการต่อสู้ขับเคี่ยวระหว่าง พระคริสต์กับซาตาน เราคัดข้อความที่นางอี.จี.ไว้ท์กล่าวไว้ถึง เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่นางได้เห็น ในเวลาอื่นเมื่อนางอี.จี. ไว้ท์กล่าวถึงการที่พระเจ้าโปรดให้นางเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางได้เล่าถึงนิมิตไว้ว่า “เวลาที่ข้าพเจ้าเห็นนิมิตพระเจ้ามักจะโปรด ให้ข้าพเจ้าเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแผ่นดินโลก ในบางครั้งพระ เจ้าทรงสำแดงเหตุการณ์ในอนาคตแก่ข้าพเจ้า และบอกให้ข้าพเจ้า ทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แล้วพระองค์ได้โปรดให้ข้าพเจ้าเห็น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต” CCh1 21.1

จากข้อความที่ได้กล่าวแล้วนี้เราจะเห็นได้อย่างแจ่มชัดว่า นางอี.จี.ไว้ท์ได้เห็นเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นด้วย สิ่งเหล่านั้นได้ ปรากฏแก่นางในนิมิต และเป็นสิ่งที่ประทับใจนางอย่างแน่นแฟ้น CCh1 21.2

ในเวลาอื่น ๆ นางรู้สึกเหมือนกับว่าตัวนางเองได้มีส่วนร่วม ในเหตุการณ์ที่พระเจ้าทรงสำแดงให้ปรากฏแก่นางจริงๆ และนาง ได้รู้สึก เห็น ได้ยิน และเชื่อฟัง ซึ่งตามที่จริงไม่เป็นเช่นนั้น แต่ นางได้เห็นเหตุการณ์ที่ประทับใจนาง และไม่สามารถจะลืมเหตุ การณ์เหล่านั้นเสียได้ CCh1 21.3

ในโอกาสอื่น ๆ ขณะที่นางอี.จี.ไว้ท์อยู่ในนิมิต ไม่ว่านาง จะอยู่ในที่ประชุมหรืออยู่ในบ้าน หรือในอาคารที่ตั้งอยู่ในสถานที่ๆ ห่างไกล นางอี.จี.ไว้ท์ทราบว่านางอยู่ในที่ชุมนุมเหล่านั้นและ สามารถจะบรรยายถึงการกระทำและถ้อยคำที่บุคคลต่างๆพูดในที่ ประชุมนั้นได้อย่างละเอียด ครั้งหนึ่งขณะที่นางอี.จี.ไว้ท์กำลังอยู่ ในนิมิตนางรู้สึกว่านางได้ไปเยี่ยมสถานพยาบาลแห่งหนึ่งของเรา นางได้เข้าไปในห้องของสถานพยาบาลนั้นและได้เห็นทุกสิ่งทุก อย่างที่เกิดขึ้นในสถานที่นั้น นางอี.จี.ไว้ท์ได้เขียนบรรยายถึง นิมิตครั้งนั้นไว้ว่า CCh1 21.4

“การสนทนาที่ไร้สาระ การพูดล้อเลียนกันอย่างโง่เขลา และการหัวเราะโดยปราศจากความหมาย ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกไม่ สบายใจเมื่อได้ฟัง ข้าพเจ้ารู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นพวกที่อยู่ใน สถานที่นั้นมีใจอิจฉาริษยากัน และข้าพเจ้าฟังถ้อยคำที่แสดงความ อิจฉาริษยาและการพูดอย่างไร้สาระ ซึ่งทำให้เหล่าทูตสวรรค์ของ พระเจ้ารู้สึกละอายใจ” CCh1 22.1

แล้วนางได้เห็นภาพที่น่าชื่นชมยินดีในสถานที่แห่งเดียวกัน นั้น นางได้ถูกนำไปที่ห้อง ซึ่งนางได้ยินเสียงอธิษฐาน เสียงนั้น ทำให้นางรู้สึกชื่นชมยินดีเสียนี่กระไร” นางอี.จี.ไว้ท์ได้เขียนคำ แนะนำสั่งสอนซึ่งนางได้อาศัยเค้าเรื่องจากการเยี่ยมเยียนสถาน พยาบาลนี้ในนิมิต และนางได้กล่าวถึงถ้อยคำของทูตสวรรค์ที่นำ นางเดินไปตามห้องและตามแผนกต่าง ๆ ในสถานพยาบาลนั้น CCh1 22.2

มีบ่อยครั้งที่นางอี.จี.ไว้ท์ได้เห็นนิมิตซึ่งพระเจ้าทรงสำแดง ให้ปรากฏแก่นาง โดยใช้เครื่องหมายสำคัญแสดงให้เห็นภาพอย่าง แจ่มชัด ภาพที่นางได้เห็นดังกล่าวแล้วได้มีบรรยายไว้ในประโยค ต่อไปนี้ซึ่งมีข้อความเกี่ยวด้วยผู้ประกาศศาสนาคนหนึ่งที่กำลังอยู่ ในภัยอันตราย CCh1 23.1

“ในเวลาอื่นพระเจ้าโปรดสำแดงภาพให้ข้าพเจ้าเห็นท่าน เป็นแม่ทัพขี่ม้าและถือธง มีคนหนึ่งมาหยิบธงไปจากมือของท่าน บนธงนั้นมีข้อความจารึกไว้ว่า “พระบัญญัติของพระเจ้าและความ เชื่อของพระเยซู “และเขาได้เอาธงนั้นทิ้งลงและเหยียบย่ำธงนั้นบน พื้นดิน ข้าพเจ้าเห็นท่านถูกห้อมล้อมด้วยฝูงชนซึ่งชักจูงท่านให้ เข้าร่วมพวกกับคนที่อยู่ฝ่ายโลก” CCh1 23.2

มีบางครั้งที่นางอี.จี.ไว้ท์ได้เห็นนิมิตสองอย่างที่มีภาพ แตกต่างกัน และความเป็นไปที่ขัดแย้งกัน นิมิตหนึ่งสำแดงภาพ ของสิ่งที่เกิดขึ้นตามแผนการหรือนโยบายที่วางไว้ และในอีกนิมิต หนึ่งแสดงให้เห็นภาพของสิ่งที่เกิดขึ้นตามแผนการอื่นๆ เราจะ เห็นตัวอย่างของเรื่องนี้ได้ในนิมิตเกี่ยวกับการเลือกตั้งโรงงานทำ อาหารที่เมืองโลมาลินดา ทางภาคตะวันตกของประเทศอเมริกา ผู้จัดการและมิตรสหายของเขากำลังวางแผนการที่จะสร้างตึกใหญ่ ใกล้โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่ง ขณะที่ผู้จัดการโรงงานทำอาหาร และเพื่อนฝูงของเขากำลวางแผนการอยู่นี้ นางอี.จี.ไว้ท์ซึ่อยู่ ในบานของนางไกลออกไปหลายร้อยไมล์ได้เห็นนิมิตสองนิมิตใน คืนเดียวกัน นางได้กล่าวถึงนิมิตครั้งแรกไว้ว่า CCh1 23.3

“ข้าพเจ้าได้เห็นตึกใหญ่ซึ่งเป็นที่จัดทำอาหารหลายชนิด มี ตึกเล็ก ๆสองสามหลังอยู่ใกล้โรงทำขนมปัง ขณะที่ข้าพเจ้ายืนอยู่ ใกล้ตึกนั้นข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังโต้เถียงกันถึงกิจการที่ดำเนินไปใน ตึกนั้น พวกคนงานไม่มีความสามัคคีปรองดองกัน และเกิดการ โกลาหลวุ่นวายในสถานที่นั้น” CCh1 24.1

แล้วนางได้เห็นผู้จัดการที่มีความทุกข์ร้อน พยายามจะพูด ชี้แจงให้พวดคนงานมีความสามัคคีปรองดองกัน นางเห็นพวกคน ไข้ที่ได้ยินเสียงโตเถียงกันนี้ และพวกเหล่านั้นได้ “กล่าวถ้อยคำที่ แสดงความเสียใตในการที่มีผู้ตั้งโรงงานทำอาหารในบริเวณที่สวย งามใกล้โรพยาบาล” แล้วมีบุคคลผู้หนึ่งปรากฎในภพนั้นและ พูดว่า “ภาพเหล่านี้ได้ถูกสำแดงให้ปรากฎแก่ท่านเพื่อเป็นบทเรียน ที่ท่านได้เห็นจากของจริง เพื่อท่านจะได้เห็นผลของการดำเนินกิจ การตามแผนการบางอย่าง” CCh1 24.2

แล้วภาพนั้นได้เปลี่ยนแปลงไป และนางได้เห็นโรงทำ อาหาร “อยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาล โรงอาหารนั้นตั้งอยู่ในถนน ที่ตัดไปสู่ทางรถไฟ” ณ ที่นี้กิจการได้ดำเนินไปอย่างมีระเบียบ เรียบร้อยตามแผนการของพระเจ้า ภายในระยะสองสามชั่วโมง ภายหลังที่นาง อี.จี.ไว้ท์ได้เห็นนิมิตนั้นนางได้เขียนจดหมายไปถึง คนงานที่เมื่องโลมาลินดา และชี้แจงให้พวกเหล่านั้นทราบว่าควร จะตั้งโรงงานทำอาหารที่ไหน ถ้าหากว่าพวกเหล่านั้นดำเนินตาม แผนการที่วางไว้แต่แรก ต่อมาภายหลังเราก็จะต้องรู้สึกละอายที่ได้ เห็นโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลเช่นนั้น CCh1 24.3

โดยประการฉะนี้แหละเราจะได้เห็นวาพระเจ้าทรงสำแดง นิมิตของพระองค์ ให้ปรากฎแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ในวิธีต่างๆ กัน พระองค์โปรดสำแดงนิมิตเหล่านั้นในเวลากล างวันหรือกลาง คืน ภายหลังที่ได้เห็นนิมิตนั้นแล้ว ผู้ที่ได้เห็นนิมิตก็เขียนเรื่อง ราวเกี่ยวกับนิมิตที่เขาเห็นและชี้แจงให้คนอื่น ๆ ทราบว่าเขาควรจะ ปฏิบัติอย่างไร ในการกระทำสิ่งนี้อขงนางอี.จี.ไว้ท์ ได้รับความ ช่วยเหลือจากพระวิญญาณของพระเจ้า แต่นางไม่ได้ถูกบังคับให้ พูดตามคำดำรัสของพระเจ้า นางเป็นผู้เลือกถ้อยคำที่นางจะกล่าวแก่ คนทั้งหลายเอง ในปีแรกๆที่นางอี.จี.ไว้ท์ได้ปฏิบัติงานในคณะ ของเรา นางได้เขียนข้อความในนิตยสารประจำโบสถ์ของเราว่า: CCh1 25.1

“แม้ว่าข้าพเจ้าจะต้องพึ่งพาอาศัยในพระวิญญาณของพระ เจ้าในการเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับนิมิตที่ข้าพเจ้าเห็น แต่ถ้อยคำที่ ข้าพเจ้าใช้บรรยายถึงภาพเหล่านั้นเป็นถ้อยคำของข้าพเจ้าเอง และ มีบางครั้งที่ข้าพเจ้าใช้ถ้อยคำของทูตสวรรค์ซึ่งข้าพเจ้าเขียนไว้ภาย ในเครื่องหมายอัญญประกาศ” CCh1 25.2