ปลายทาง แห่งความหวัง

28/76

บทที่ 4 - มีอะไรอยู่เบื้องหลังความตาย

ซาตานผู้ยุยงให้เกิดกบฏในสวรรค์ ต้องการชักจูงให้ผู้อาศัย อย่ในโลกเข้าร่วมกับพวกมันทำสงครามต่อส้พระเจ้า อาต้ม และเอวาเคยมีความสุขในการเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้าอย่างสมบูรณ์ พร้อม เป็นพยานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เห็นข้ออ้างของซาตานที่ไต้กล่าว ในสวรรค์ว่า พระบัญญัติของพระเจ้าเป็นภาระหนัก ซาตานวางแผนเพื่อ ทำให้เขาหลงผิด มันกิจะสามารถเป็นเจ้าของโลกนี้ และตั้งอาณาจักร ของมันขึ้นที่นื่ เพื่อการต่อสู้กับพระเจ้าผู้สูงสุด GrHTh 37.1

อาต้มและเอวาไต้ร้บคำต้กเตือนให้ระมัดระวังศัตรูอ้นตรายผู้นี้ แต่มารแอบดำเนินการของมันด้วยวิธีสร้างความเคลือบแคลง และปิดบัง อำพรางความมุ่งหมายของมัน อาศัยแฝงร่างอยู่ในงู จากนั้นส้ตวัที่มี รูปร่างอ้นงดงามไปปรากฏตัวและพูดกับเอวาว่า “จริงหรือที่พระเจ้าตรัสห้าม ว่าอย่ากินผลไมัใดๆ ในสวนนี้” เอวามีใจกล้าพูดโต้ตอบกับซาตานและ ตกเป็นเหยื่อเล่ห์อุบายของมัน” หญิงนั้นจึงตอบงูว่า ผลไม้ของต้นไม้ ต่างๆ ในสวนนี้เรากินไต้ เว้นแต่ผลของต้นไม้ที่อยู่กลางสวนนั้น พระเจ้า ตรัสห้ามว่า “อย่ากินหรือแตะต้องเลย มิฉะนั้นจะตาย” งูจึงตอบหญิงนั้น ว่า “เจ้าจะไม่ตายจริงดอกเพราะพระเจ้าทรงทราบอยู่ว่า เจ้ากินผลไม้นั้น เข้าไปวันใด ตาของเจ้าจะสว่างขึ้นในวันนั้น แล้วเจ้าจะเป็นเหมือนพระเจ้า คือสำนึกในความดีและความชั่ว” (ปฐมกาล 3:1-5) GrHTh 37.2

เอวายอมเชื่อฟังและด้วยการจูงใจชักชวนของเธอ อาศ้ยได้ถูก ชักจูงให้ทำบาป ทั้งสองคนยอมเชื่อฟังถ้อยคำของงู ไม่ไว้วางใจใน พระผู้สร้างและคิดว่าพระองค์ทรงจาก้ดเสรีภาพของตน GrHTh 38.1

ภายหลังทำผิดแล้ว อาต้มเข้าใจคำพูดของงูที่กล่าวว่า “เจ้ากิน ผลไม้นั้นว้นใด เจ้าจะไม่ตายจริงดอก” มีความหมายว่าอย่างไร เขาอยาก มีชีวิตในที่สูงขึ้นอีกหรือ อาต้มไม่เห็นว่าตรงกับพระดำร้สฃองพระเจ้าที่ ทรงตรัสว่าเพื่อเป็นการลงโทษที่เขาได้ทำบาปตรงไหน มนุษย์จะต้อง กลับไปเป็นดิน “เจ้าเป็นผงคลีดินและจะต้องกลับเป็นผงคลีดินด้งเดิม” (ปฐมกาล 3:19) ถ้อยคำของชาตานที่กล่าวว่า “ตาของเจ้าจะสว่างขึ้นใน รันนั้น” เป็นความจริงโดยนัยนี้เท่านั้น คือเมื่อตาของเขาสว่างขึ้นมอง เห็นความโง่เขลาของต้วเอง รู้จักความชั่วร้ายและได้ลิ้มรสการล่วงละเมิด อันขมขื่น GrHTh 38.2

ต้นไม้แห่งชีวิตมีอำนาจทำให้ชีวิตยืนยาวตลอดไป หากอาต้ม ยอมเชื่อฟังพระเจ้า เขามีอิสระเข้าถึงต้นไม้นี้และมีชีวิตยั่งยืนตลอดกาล แต่เมื่อทำบาปเขาจึงถูกต้ดขาดจากการมีส่วนในต้นไม้แห่งชีวิต กลับต้อง ตกอยู่ใต้อำนาจความตาย ชีวิตที่เป็นนิรันดรใต้ถูกทำลายโดยการล่วง ละเมิด หากมิใช่เพราะการลิ้นพระชนม์ของพระบุตรพระเจ้า คงไม่มีความ หวังใดสำหรับเผ่าพันธุของมนุษย์ผู้หลงผิดอีกแล้ว พระองค์ทรงนำเอา ชีวิตนิรันดรมามอบให้ เพื่อเขาจะสามารถเอื้อมไปถึงไต้ ขณะที่ “ความ ตายไต้แผ่ไปถึงมวลมนุษย์ทุกคน เพราะมนุษย์ทุกคนทำบาป” พระคริสต์ ไต้ทรงกระทำให้ชีวิตและสภาพอมตะกระจ่างแจ้งโดยข่าวประเสริฐ มนุษย์สามารถรับเอาชีวิตที่ไม่ตายนี้ โดยทางพระคริสต์องค์เดียวเท่านั้น พระเยซูตรัสว่า “ผู้ที่วางใจในพระบุตรก็มีชีวิตชั่วนิรันดร์ ผู้ที่ไม่เชื่อฟัง พระบุตรก็จะไม่เห็นชีวิต” (โรม 5:12; 2 ทิโมธี 1:10; ยอห์น 3:36) GrHTh 38.3