ปลายทาง แห่งความหวัง

27/76

หลักฐานที่มีอย่างเพียงพอ

พระเจ้าทรงประทานพระวจนะของพระองค์ ให้เป็นหลักฐานเพียง พอที่แสดงให้เห็นถึงพระลักษณะของพระองค์ แต่เพราะสติปัญญาของ มนุษย์มีขอบเขต เขาจึงไม่เข้าใจถึงพระประสงค์ของพระองค์ผู้ไม่มี ขอบเขตจำกัด “โอ พระปัญญาและความรอบรู้ของพระเจ้านั้นลํ้าสึก เท่าใด ข้อตัดสินของพระองค์เหลือที่จะหยั่งรู้ได้ และทางของพระองค์ ก็เหลือที่จะสืบเสาะได้” (โรม 11:33) เราสามารถสังเกตความรัก ความ เมตตากรุณาและฤทธิ้อำนาจของพระองค์ซึ่งไม่มีขอบเขต ที่ผูกพันเข้า ด้วยกัน พระบิดาของเราผู้สถิตบนสวรรค์จะทรงเปิดเผยพระองคิให้เรา เห็นมากที่สุดเท่าที่จะท่าได้เพื่อประโยชน์อ้นตีของเรา นอกเหนือไปจากนี้ เราจะต้องไว้วางใจในพระหัตถ์ของพระองค์ผู้ทรงฤทธานุภาพไม่จำกัด ผู้ทรงมีพระทัยที่เปียมด้วยความรัก GrHTh 33.2

พระเจ้าจะไม่ทรงยกข้ออ้างใดๆ ที่จะทำให้เกิดความสงสัย ผู้ใดที่ หาตะขอที่เขาจะเอาความสงสัยต่าง ๆ ของตนไปแขวนไว้ก็จะพบสิ่งนั้น และบรรดาคนที่ปฏิเสธไม่เชื่อจนกว่าอุปสรรคทุกอย่างถูกกำจัดออกไป ให้หมดเสียก่อน จะไม่ยอมเข้ามาสู่ความสว่าง คนที่ไม่เปลี่ยนใจใหม่ก็ เท่ากับตั้งตัวเป็นศ้ตรูของพระเจ้า แต่ความเชื่อนั้นเป็นการดลใจจาก พระวิญญาณบริสุฑธจะเจริญมากยิ่งขึ้น ไม่มีผู้ใดที่เข้มแข็งได้หากเขา ไม่มีความตั้งใจจริง หากมนุษย์ทั้งหลายปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในความ สงสัย เขาก็จะพบว่าสิ่งนี้จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น GrHTh 34.1

บรรดาคนที่สงสัยและไม่ไว้วางใจในหลักประกันแห่งพระคุณของ พระองค์เท่ากับไม่ถวายเกียรติพระคริสต์ เขาก็เหมือนด้นไม้ที่ไม่เกิดผล แผ่กิ่งก้านสาขาบังแสงแดดไม่ให้ส่องไปย้งด้นอื่น ท่าให้ด้นไม้เหล่านั้น เหี่ยวแห้งร่วงโรยและตายไปภายใต้ร่มเงาแห่งความเฉยเมย ชีวิตการ ท่างานของคนเหล่านั้นจะปรากฏให้เห็นอย่างไม่มีสิ้นสุด ฟ้องว่าเขาเป็น คนอย่างไร GrHTh 34.2

วิธีเดียวเท่านั้นสำหรับคนที่ด้องการหลุดพ้นจากความสงสัยอย่าง แท้จริงคือ แทนที่จะสงสัยในสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ ให้เขาเอาใจใส่แสงสว่างที่ ได้ฉายให้เห็นอยู่แล้ว จากนั้นเขาก็จะได้รับแสงสว่างที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น GrHTh 34.3

ซาตานสามารถปลอมเรื่องเท็จให้เป็นเหมือนความจริงได้อย่าง แนบเนียน มันจึงล่อลวงคนทั้งหลายที่เต็มใจให้ม้นหลอก คนที่ต้องการ หลีกเลี่ยงการเสียสละตามที่ความจริงเรียกร้อง แต่มันไม่สามารถยึด เหนี่ยวคนที่ปรารถนาจะเรียนรู้ความจริงอย่างจริงใจ ไม่ว่าจะต้องสูญเสีย อะไรก็ตามเพื่อจะรู้ความจริงนั้น ให้อยู่ภายใต้อำนาจของมัน พระคริสต์ ทรงเป็นความจริง “ความสว่างแท้ที่ท่าให้มนุษย์ทุกคนเห็นความจริง นั้นได้ แม้ขณะนั้นกำลังเข้ามาในโลก” “ถ้าผู้ใดตั้งใจประพฤติตาม พระประสงค์ของพระองค์ ผู้นั้นก็จะรู้ว่าคำสอนนั้นมาจากพระเจ้า” (ยอห์น 1:9; 7:17) GrHTh 34.4

การที่พระเจ้าทรงโปรดให้ประชากรของพระองค์ตกอยู่ภายใต้ความ น่ากลัวของการทดลองที่รุนแรง ไม่ใช่เพราะพระองค์ทรงพอพระทัยใน ความยากลำบาก แต่นี่คือสิ่งที่จำเป็นเพื่อชัยชนะในวาระสุดท้ายของเขา พระองค์ไม่ปกป้องเขาให้พ้นจากการทดลองด้วยพระสิริของพระองค์ ตลอดเวลา จุดประสงค์ของการทดสอบก็เพื่อเตรียมเขาให้พร้อมสำหรับ การต่อสู้ก้บการล่อลวงทุกอย่างของความชั่ว ไม่ว่าคนชั่วหรือผีมารเองก็ ไม่สามารถชัดขวางไม่ให้พระเจ้าสถิตอยู่กับประชากรของพระองค์ไต้ หากเขาเหล่านั้นสารภาพความผิดบาป และละทิ้งการบาป เชื่อมั่นใน พระลัญญาของพระเจ้าสามารถจะต่อสู้ การทดลองทุกอย่างไม่ว่าจะ เป็นที่ลับหรือที่แจ้งไต้ “มิใช่ด้วยกำลัง มิใช่ด้วยฤทธานุภาพ แต่ด้วย พระวิญญาณของเรา” (เศคาริยาห้ 4:6) GrHTh 35.1

“ถ้าท่านทิ้งหลายใฝ่ใจประพฤติความดี ผูใดจะทำร้ายท่าน” (1 เปโดร 3:13) ซาตานทราบดีว่าจิตวิญญาณซึ่งอ่อนแอที่สุดที่อยู่ในพระคริสต์ มี กำลังเกินพอต่อกรกับกองท้พทิ้งหลายของแห่งความมืดได้ เพราะฉะนั้น มันจึงพยายามหาทางดึงเอาบรรดาทหารแห่งไม้กางเขนออกไปจากป้อม ค่ายอันมั่นคงของเขา ขณะที่มันคอยแอบซุ่มอยู่ พร้อมทำลายทุกคนที่ ย่างเท้าเข้าไปในบริเวณของมัน การวางใจในพระเจ้าและเชื่อฟังพระบ้ญญัติ ทุกข้อของพระองค์เท่านั้นที่สามารถทำให้เรามีความมั่นคงได้ GrHTh 35.2

ไม่มีใครอยู่อย่างปลอดภัยได้ แม้ลักวันหนึ่งหรือชั่วโมงหนึ่งโดย ไม่อธิษฐาน จงทูลขอสติปัญญาจากพระเจ้าเพื่อจะเข้าใจพระวจนะของ พระองค์ ชาตานเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในการยกข้อพระคัมภีร์ขึ้นมาอ้าง มันดีความหมายข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ด้วยหวังว่าจะทำให้เราสะดุดล้ม เรา ต้องศึกษาค้นคว้าด้วยความถ่อมใจ ขณะที่เฝ่าระวังป้องกันกลอุบายต่างๆ •ของชาตานอยู่นั้น เราจะต้องอธิษฐานด้วยความเชื่ออย่างต่อเนื่องว่า “ขออย่าน่าข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง” (มัทธิว 6:13) GrHTh 35.3

***** GrHTh 35.4