บหัศจรรย์แห่อการรักษา

20/191

“ท่านกั้งหลายไดรับเปล่าๆ จงไหเปล่าๆ”

คำเชิญของข่าวประเสริฐจะต้องไม่ถูกจำกัดหรือประกาศให้เฉพาะ บุคคลที่ได้รับการเลือกสรรเพียงไม่กี่คนที่เราคิดว่าจะทำให้เราได้รับเกียรติยศ ชื่อเสียงหากพวกเขาไต้ยอมรับเอาพระกิตติคุณประเสริฐนั้นไว้ ข่าวประเสริฐ จะต้องประกาศแก่มนุษย์ทุกผู้ทุกนาม เมื่อพระเจ้าทรงอวยพรแก่เหล่าบุตร ของพระองค์พระองค์มิไต้ทรงเห็นแก่เขาเท่านั้น แต่เพื่อทรงเห็นแก่มนุษย์ ทั้งโลก เมื่อพระองค์ทรงโปรดประทานของประทานต่างๆ ให้แก่เรา เราจะ ต้องทำให้ของประทานนั้นเพิ่มพูนมากขึ้นด้วยการที่ไต้จ่ายแจกแบ่งปัน ออกไป {MH 102.1} MHTh 96.2

ทันทีที่หญิงชาวสะมาเรียที่ได้สนทนากับพระเยซูที่ข้างบ่อนํ้าของ ยาโคบได้ทราบว่าพระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด นางก็ได้พาคนอื่นๆ มาหาพระองค์ นางได้พีสูจน์ให้เห็นว่านางเป็นผู้เผยแพร่ศาสนาที่ทำงาน ได้บงเกิดผลมากกว่าเหล่าสาวกของพระองค์เอง พวกสาวกมองไม่เห็นสิ่ง ใดที่จะเป็นเครื่องบ่งบอกว่าประเทศสะมาเริยเป็นผืนนาที่ยังมีความหวังว่า จะเก็บเกี่ยวจิตวิญญาณอะไรได้ ความคิดของพวกเขามุ่งไปที่งานยิ่งใหญ่ ที่จะต้องกระทำในอนาคต เหล่าสาวกต่างมองไม่เห็นว่ารอบๆ ต้วก็ยังมี ข้าวที่จะต้องเก็บเกี่ยว แต่โดยหญิงที่เหล่าสาวกเหยียดหยามนี่แหละ คน ทั้งเมืองจึงได้รับการชักนำให้มาฟังพระเยซู นางได้นำแสงสว่างไปสู่พี่น้อง ชาติเดียวกันกับนางในทันที {MH 102.2} MHTh 96.3

หญิงคนนี้เป็นแบบอย่างที่ได้แสดงให้เห็นถึงวิธีปฏิบัติงานของผู้ที่ มีความเชื่อที่แท้จริงในพระคริสต์ สาวกที่ซื่อสัตย์ทุกๆ คนได้บังเกิดใหม่ใน ราชอาณาจักรของพระเจ้าในฐานะผู้เผยแพร่ศาสนา ทันทีที่เขาได้มารู้จัก พระผู้ช่วยให้รอดแล้ว เขาก็จะปรารถนาที่จะให้ผู้อื่นได้รู้จักกับพระองค์ ด้วย ความจริงที่จะช่วยให้รอดและชำระจิตใจให้บริสุทธื้ใด้นั้น มือาจที่ จะเก็บไว่ในใจของเขาแต่เพียงผู้เดียวได้ ผู้ที่ดื่มนํ้าแห่งชีวิตจะกลับกลาย เป็นนํ้าพุแห่งชีวิต ผู้รับจะกลับกลายเป็นผู้ให้ พระคุณของพระคริสต์ในจิต วิญญาณจะเป็นเหมือนบ่อนํ้าพุกลางทะเลทรายที่พลุ่งขึ้นมาเพื่อทำให้ทุก คนที่ดื่มนั้นชุ่มชื่นจิตใจ และทำให้ผู้ที่จะต้องถึงซึ่งกับความพินาศ เกิด ความกระหายที่จะดื่มนํ้าแห่งชีวิต ด้วยการปฏิบัติเช่นนี้ เราก็จะได้รับพระ- พรอย่างมากมายยิ่งกว่าการทำเพื่อประโยชน์ของตัวเราเองแต่เพียงฝ่าย เดียว การงานในการประกาศถึงข่าวดีแห่งความรอดจะนำเราให้เข้าใกล้ พระผู้ช่วยให้รอดได้ {MH 102.3} MHTh 97.1

พระเยโฮวาห้ตรัสถึงผัูที่ได้รับพระคุณของพระองค์ว่า {MH 1 03.1}“เราจะกระทำให้เขากับสถานที่รอบๆ เนินเขาของเราเป็นแหล่ง พระพร เราจะส่งฝนลงมาให้ตามฤดูกาล เป็นห่าฝนแห่งพระพร” เอเสเคียล 34:26 {MH 1 03.2} MHTh 97.2

“ในวันสุดท้ายของงานเทศกาล ซึ่งเป็นวันใหญ่นั้น พระเยซูทรงยืน และประกาศว่า ถ้าzผู้ใดกระหาย ผู้นั้นจงมาหาเราและดื่ม ผู้ที่วางใจในเรา ตามที่มีคำเขียนไว้แล้วว่า แม่นั้าที่มีนั้าธำรงชีวิต จะไหลออกมาจากภายใน ผู้นั้น,, ยอห์น 7:37, 38 {MH 103.3} MHTh 97.3

คนทั้งหลายที่ได้รับพระคุณแล้วนั้น จะต้องแบ่งปันพระคุณต่อให้ แก่ผู้อื่น จากทั่วทุกสารทิศต่างมีเสียงที่ร้องเรียกเพื่อขอความช่วยเหลือ พระเจ้าทรงเรียกมนุษย์ทั้งหลายให้มาปรนนิบัติรับใช้ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วย กันด้วยความยินดี เราทั้งหลายจะต้องกระทำกิจของพระเจ้าเพื่อที่จะไต้ รับมงกุฎแห่งชีวิตนิรันดรเป็นชัยชนะ เราจะต้องต่อสู้เพื่อที่จะได้รับราช อาณาจักรแห่งแผ่นดินสวรรค์เป็นมรดก โลกที่กำลังถึงซึ่งกับความพินาศ เพราะปราศจากความรู้จักต้องได้รับแสงสว่าง {MH 103.4} MHTh 97.4

“ท่านทั้งหลายว่า อีกสี่เดือนจะถึงฤดูเกี่ยวข้าวมิใข่หรือ เราบอก ท่านทั้งหลายว่า เงยหน้าขึ้นดูนาเถิด ว่าทุ่งนาเหลืองอร่าม ถึงเวลาเกี่ยว แล้ว คนเกี่ยวก็กำล้งได้รับค่าจ้าง และกำลังส่ำสมพืชผลไว้สำหรับชีวิต นิรันดร เพื่อทั้งคนหว่านและคนเกี่ยวจะขื่นขมยินดีด้วยกัน” ยอห์น4:35, 36 {MH 103.5} MHTh 98.1

เป็นเวลาสามปีที่เหล่าสาวกไต้มีพระเยซูทรงเป็นแบบอย่างอันประ- เสริฐสำหรับเขาทั้งหลาย วันแล้ววันเล่าที่เขาทั้งหลายร่วมดำเนินและสนทนา กับพระองค์ ฟังถ้อยคำของพระองค์ที่ตรัสปลอบโยนแก่คนที่เหนื่อยล้า ระอาใจและคนที่ต้องแบกภาระอันหนัก และยังเห็นการสำแดงถึงฤทธิ์ อำนาจของพระองค์เพื่อเห็นแก่คนที่เจ็บป่วยและผู้ที่ต้องทนทุกๆโทรมาน เมื่อถึงกำหนดเวลาที่พระองค์จะต้องจากไป พระองค์ประทานพระคุณและ ฤทธิ์อำนาจให้แก่เขาทั้งหลายเพื่อที่จะได้ดำเนินพระราชกิจของพระองค์ ต่อไปในพระนามของพระองค์ เหล่าสาวกจะต้องส่องแสงสว่างของข่าว ประเสริฐแห่งความรักและการเยียวยารักษาให้แผ่กระจายออกไปและพระ- ผู้ช่วยให้รอดทรงสัญญาว่าจะสถิตอยู่กับเขาทั้งหลายเสมอไปโดยทาง พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์จะสถิตอยู่ร่วมกับเขาทั้งหลายไดัใกลัชิดขึ้น ยิ่งกว่าเมื่อครั้นที่พระองค์ยังทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางมนุษย์ที่สามารถมอง เห็นพระองค์ใต้ {MH 104.1} MHTh 98.2

งานที่เหล่าสาวกได้ท่านั้น เราก็จะต้องกระทำด้วย คริสเตียนทุกคน จะต้องเป็นผู้เผยแพร่ศาสนา เราจะต้องปรนนิบ้ติรับใช้ด้วยความเห็นอก เห็นใจและเมตตาสงสารแก่บรรดาผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ และพยายาม ที่จะช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ของมนุษยชาติที่ได้รับความยากลำบากด้วย ความตั้งใจมั่นโดยไม่เห็นแก่ตนเอง {MH 1 04.2} MHTh 98.3

ทุกคนจะหางานท่าได้ อย่าให้มีผูัใดรัูสึกว่าไม่มีที่ๆ เขาจะท่างานให้ กับพระคริสต์ใต้ พระผู้ช่วยให้รอดทรงร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเหล่าบุตรของ มนุษย์ทั้งหลาย เพื่อจะให้เราได้เป็นสมาชิกในครอบครัวแห่งสวรรค์ พระ- องค์เสด็จมาเพื่อเป็นสมาชิกในครอบครัวแห่งแผ่นดินโลก พระองค์ทรง เป็นบุตรมนุษย์ ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงทรงเป็นพี่น้องของบุตรชายหญิงทุก คนของอาด้มสาวกผู้ติดตามของพระองค์จะต้องไม่รัูสึกว่าตนเองนั้นไม่มี ความเกี่ยวข้องใดๆ กับโลกโดยรอบที่กำลังจะถึงซึ่งความพินาศ พวกเขา เป็นส่วนหนึ่งของสายใยที่ถักทอบรรดามนุษยชาติเข้าไว้ด้วยกัน และชาว สวรรค์ถือว่าเขาเป็นพี่น้องของเหล่าคนบาปอีก เป็นพี่น้องร่วมกับบรรดา ธรรมิกชน {MH 1 04.3} MHTh 99.1

มีมนุษย์นับล้านๆ คนที่ตกอยู่ในสภาพของความเจ็บป่วย ความ ขลาดเขลาและความผิดบาป และยังไม่เคยได้ยินถึงความรักของพระคริสต์ ที่มีต่อเขา ถ้าหากเราจะเปลี่ยนสภาพระหว่างเรากับเขาได้เราปรารถนา ที่จะให้เขาทำอะไรเพี่อเราบ้าง สิ่งทั้งหมดนี้ เราจะต้องกระทำเพี่อพวกเขา เท่าที่เราจะสามารถกระทำได้ แนวทางในการดำเนินชีวิตที่พระคริสต์ใต้ ทรงกำหนดไว้ว่าเราจะยังคงตั้งมั่นอยู่หรือว่าจะต้องพินาศไปในการพิพากษา คือ “จงปฎิบัฅิต่อผูอื่น อย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฎิบัฅิต่อท่าน” มัทธิว 7:12 {MH 104.4} MHTh 99.2

เมื่อเราไต้รับพระราชทานบรรดาสิ่งที่เป็นประโยชน์มากยิ่งกว่าผู้อื่น นั้น ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การขัดเกลา อุปนิสัยอันดีงาม การอบรมตาม แบบอย่างของคริสเตียน และประสบการณ์เกี่ยวกับศาสนา เท่ากับว่าเรา ไต้เป็นหนี้ของผู้ที่ไต้รับสิทธิพิเศษน้อยกว่าเรา และเท่าที่เราจะสามารถ กระทำไต้ เราจะต้องช่วยเหลือคนเหล่านั้น หากเรามีกำลังที่เข้มแข็ง เรา จะต้องช่วยพยุงมือของผัูที่อ่อนแอกว่าเรา {MH 105.1} MHTh 99.3

ทูตสวรรค์ที่มืรัศมีรุ่งเรืองซึ่งไต้เห็นพระพักตร์พระบิดาบนสวรรค์อยู่ เป็นนิตย์ ต่างมีความปีติยินดีในการปรนนิบัติช่วยเหลือเหล่าบุตรของ พระองค์ ทูตสวรรค์จะอยู่ในที่ๆ คนเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด อยู่กับผู้ที่กำลังเผชิญสงครามอันหนักหน่วงที่สุดของสงครามการต่อสู้กับ ตัวเอง และอยู่กับผู้ที่ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้เขาท้อถอยที่สุด จิต วิญญาณที่อ่อนกำลังและเป็นทุกข์หวาดหวั่นของผู้ที่มีอุปนิสัยหลายอย่าง อันน่ารังเกียจ เป็นพวกที่เหล่าทูตสวรรค์คอยดูแลห่วงใยเป็นพิเศษ สิ่งที่ คนมีจิตใจที่เห็นแก่ตัวมองว่างานของการปรนนิบัติรับใช้ต่อผู้อื่นนั้นตาต้อย การให้ความช่วยเหลือแก่คนที่น่าเวทนาและมีคุณลักษณะทุกต้านที่ต้อย กว่าคนอื่นนั้น เป็นงานของเหล่าทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์ ปราศจากความผิด บาปที่มาจากบัลลังก์เบื้องบน {MH 105.2} MHTh 99.4

พระเยซูมิไต้ทรงถือว่าสวรรค์เป็นสถานที่อันน่าพึงปรารถนาในขณะ ที่เราตกอยู่ในความพินาศ พระองค์เสด็จจากราชบัลลังกํในสวรรค์มา บังเกิดเป็นมนุษย์และมีชีวิตที่ถูกตำหนิติเตียนและถูกลูหมิ่นเหยียดหยาม และทรงต้องวายพระชนม์ด้วยความอัปยศอดสู พระองค์ผู้ทรงมั่งคั่งบริบูรณ์ ด้วยราชสมบัติในสวรรค์อันประเมินค่ามิได้ กลับกลายมาเป็นเพียงคนที่ ยากจนขัดสนเพราะโดยความยากจนของพระองค์นั้น เราทั้งหลายจะได้ มั่งคั่ง เราทั้งหลายจึงต้องตำเนินตามรอยพระบาทที่พระองค์ทรงเคยตำเนิน ผ่านไปก่อนหน้านั้น {MH 105.3} MHTh 100.1

นับจากนี้ไป ผู้ที่ไต้มาเป็นบุตรของพระเจ้าจะต้องตระหนักว่าตนเอง ไต้เป็นส่วนหนึ่งของโซ่คล้องที่โรยลงมาจากสวรรค์เพื่อช่วยบรรดามนุษย์ ให้ใต้รับความรอด เขาจะมีส่วนร่วมกับพระคริสต์ในแผนการแห่งพระกรุณา - ธิตุณของพระองค์ และออกไปพร้อมกับพระองค์เพื่อที่จะแสวงหาและช่วย เหลือคนที่หลงหายให้ใต้รับความรอด {MH 105.4} MHTh 100.2

มีคนมากมายรู้สึกว่าเป็นสิทธิพิเศษยิ่งใหญ่ที่มีโอกาสไปท่องเที่ยว ตามสถานที่ต่างๆ ที่พระคริสต์ทรงเคยดำรงพระชนม์อยู่ในโลก ไต้เดินไป ตามหนทางที่พระองค์ทรงเคยดำเนินผ่านไป ไต้มองไปยังริมทะเลสาบที่ พระองค์ทรงโปรดปรานที่จะใช้เป็นสถานที่ในการเทศนาสั่งสอน และมอง ไปยังเนินเขาและบนหุบเขาที่พระองค์ทรงเคยทอดสายพระเนตรอยู่เสมอ แต่เราไม่จำเป็นต้องไปยังเมืองนาซาเร็ธ ไปยังเมืองคาเปอรนาอุม หรือ หมู่บ้านเบธานี เพื่อที่จะไต้เดินตามรอยพระบาทของพระเยซู แต่เราจะไต้ พบเห็นรอยพระบาทของพระองค์อยู่ที่ข้างเตียงคนป่วย ในกระท่อมของ คนยากจน ตามตรอกซอกซอยที่แออัดไปด้วยผู้คนในเมืองใหญ่และในทุก แห่งหนที่มืจิตใจของบรรดาผู้ที่ต้องการคำปลอบประโลมใจ {MH 1 05.5} เราจะต้องเลี้ยงดูผู้ที่หิวกระหาย ห่มกายของผู้ที่เปล่าเปลือยและ ช่วยเล้าโลมจิตใจของคนที่ประสบกับความทุกข์ยากและเจ็บป่วยทรมาน เราจะต้องช่วยเหลือคนที่มืจิตใจท้อถอยและช่วยผู้ที่ไร้ซึ่งความหวังให้เกิด แรงบนดาลใจขึ้นใหม่อีกครั้ง {MH 106.1} MHTh 100.3

ความรักของพระคริสต์ที่เราได้สำแดงให้ประจักษ์ด้วยการปรนนิบติ รับใช้อย่างไม่เห็นแก่ตัวนั้น จะยังผลในการปรับปรุงแก่ไขผู้ที่กระท่าชั่ว ไต้ดีกว่าดาบลงโทษหรือศาลสถิตยุติธรรม สิ่งเหล่านี้อาจมีความจำเป็น เพื่อท่าให้ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายเถิดความหวาดกล้ว แต่ผู้เผยแพร่ศาสนาที่ เปียมด้วยความรักใคร่ย่อมจักสามารถกระท่าได้มากยิ่งกว่า บ่อยครั้งจิตใจ ที่กระด้างอันเกิดจากการที่ลูกตำหนิติเตียนมักจะอ่อนลงเมื่อได้รับความ รักของพระคริสต์ {MH 106.2} MHTh 101.1

ผู้เผยแพร่ศาสนามิเพียงจะสามารถรักษาบรรเทาความเจ็บป่วยด้าน ร่างกายได้เท่านั้น แต่เขายังนำคนบาปให้ไปหาแพทย์ผู้ประเสริฐได้ พระ- องค์ผู้ทรงสามารถชำระจิตวิญญาณให้สะอาดจากบาปผิดอันร้ายแรงดุจ โรคเรื้อน โดยอาศัยผู้รับใช้ของพระองค์ พระเจ้าทรงมิความมุ่งหมายที่จะ ให้คนที่เจ็บป่วย คนที่เคราะห์ร้ายและคนที่ลูกวิญญาณชั่วร้ายเข้าสิงให้ ได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ โดยอาศัยมนุษย์ซึ่งเป็นผู้แทนของพระองค์ พระองค์ทรงปรารถนาที่จะได้เป็นผู้ที่คอยปลอบประโลมจิตใจอย่างที่โลก ไม่เคยรู้จักมาก่อน {MH 106.3} MHTh 101.2

พระผู้ช่วยให้รอดทรงยอมสละพระชนม์ชีพอันประเสริฐของพระองค์ เพื่อจะได้จัดตั้งคริสตจักรขึ้นมาที่มืความสามารถปรนนิบ้ติช่วยเหลือผู้ที่ มีความทุกข์ทรมาน คนที่เศร้าโศกและคนที่ประสบกับการทดลอง ในหมู่ ผู้เชื่ออาจเป็นคนที่ยากจน ขาดการศึกษาและไม่เป็นที่รู้จัก แต่ถึงกระนั้น ในพระคริสต์ เขาทั้งหลายก็ยังสามารถที่จะกระท่ากิจการของพระองค์ใต้ ภายในบ้าน ในวงสังคมและแม้แต่ใน “แว่นแคว้นที่อยู่ห่างไกล” ซึ่งผลนั้น จะได้แผ่ขยายกว้างไกลออกไปจนไม่มีที่สิ้นสุด {MH 106.4} สำหรับสาวกผู้ติดตามพระคริสต์ในทุกวันนี้ พระองค์ตรัสถึงถ้อยคำ ที่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าเมื่อครั้นที่ตรัสกับเหล่าสาวกพวกแรกว่า {MH 106.5} MHTh 101.3

“ฤทธานุภาพทั้งสิ้นในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดีทรงมอบไว้แก่ เราแล้ว เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปลํ่งสอนชนทุกชาติ” “เจ้าทั้งหลาย จงออกไปทั่วโลกประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน” ม้ทธิว 28:18, 19; มาระโก 16:15 {MH 106.6} MHTh 102.1

และพระสัญญาที่ว่าพระองค์จะสถิตอยู่ด้วยนั้นก็จะเป็นของเรา เช่นกัน “นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค” ม้ทธิว 28:20 {MH 107.1} MHTh 102.2

ทุกวันนี้ ไม่มีฝูงชนที่อยากรู้อยากเห็นที่พากันไปชุมนุมกันในสถานที่ เปล่าเปลี่ยวห่างไกลจากผู้คนเพื่อจะได้เห็นและได้สดับฟังพระคริสต์ ไม่มี พระสุรเสียงของพระองค์ให้ใด้ยีนตามถนนอันจอแจอีก ไม่มีเสียงร้องจาก ริมทางว่า“พระเยซูขาวนาซาเร็ธเสด็จไป” ลูกา 18:37 แต่กระนั้น ถ้อยคำนี้ก็ยังคงเป็นความจริงอยู่ในวันนี้ พระคริสต์ทรงดำเนินไปตามถนน หนทางของเราแม้เราจะมองไม่เห็นพระองค์ก็ตาม พระองค์เสด็จมายังบ้าน ของเราพร้อมกับพระกิตติคุณแห่งพระเมตตา พระองค์ทรงรอคอยเพื่อจะ ได้ร่วมมือกับคนทั้งหลายที่พยายามปรนนิบ้ติช่วยเหลือผู้อื่นในพระนาม ของพระองค์ พระองค์ประทับอยู่ท่ามกลางเราทั้งหลาย เพื่อจะทรงเยียวยา รักษาโรคกัยและอวยพระพรให้แก่เรา หากเราจะยอมรับพระองค์ {MH 107.2} MHTh 102.3

“พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ในเวลาโปรดปราน เราตอบเจ้าแล้ว ในวันแห่ง ความรอดเราได้ช่วยเจ้า เราได้ดูแลเจ้า และมอบให้เจ้า เป็นตัวพนธสัญญา ของมนุษยชาติ เพื่อสถาปนาแผ่นดิน เพื่อจะให้รับที่ร้างเปล่าเป็นมรดก พลางกล่าวแก่ผู้ถูกจำจองว่า ออกมาเถิด ต่อบรรดาผู้ที่อยู่ในความมืดว่า จงปรากฎตัว” MHTh 102.4

“เท้าของผู้นำข่าวดีมา ก็งามสักเท่าใดที่บนภูเขา ผู้โฆษณาสันติภาพ
ผู้นำข่าวดีของเรื่องดีผู้โฆษณาความรอด
ผู้’กล่าวแก่ศิโยนว่า พระเจ้าของเจ้าทรงครอบครอง’‘
MHTh 103.1

อิสยาห์ 49:8, 9; 52:7

“เจ้าคือที่ทิ้งร้างแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย จงเปล่งเสียงร้องเพลงด้วยกัน
เพราะพระเจ้าได้ทรงเล้าโลมขนชาติของพระองค์...
พระเจ้าทรงเปลือยพระกรอันบริสุทธิ้ของพระองค์
ต่อหน้าต่อตาประขาชาติทั้งปวง และที่สุดปลายแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
จะเห็นความรอดของพระเจ้าของเรา’‘
MHTh 103.2

อิสยาห์ 52:9, 10 {MH 1 07.3}

*****

*****