บหัศจรรย์แห่อการรักษา

2/191

ภาคกี่ 1 - ผู้เผยแพร่คาสนา ไนด้านการแพทย์กี่แกัจริง

บทกี่ 1 - แบบอย่างของเรา

พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเสด็จมาในโลกนี้ในฐานะ ผู้รับใช้ที่ไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยเพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ พระองค์ทรง “แบกความเจ็บไข้ของพวกเราทั้งหลายและหอบความเจ็บ ปวดของเราไป’, เพื่อจะรับใช้ตามความต้องการของมนุษยชาติ มัทธิว 8:17 พระองค์เสด็จมาเพื่อขจัดโรคภยไข้เจ็บ ปลดเปลื้องความทุกข์ยาก และกำจัดความผิดที่ทับถมอยู่ในตัวของมนุษย์!ห้หมดสิ้นไป พระราชกิจ ของพระองค์คือ การช่วยให้มนุษย็ได้กลับคืนสู่ความบริสุทธึ๋ชอบธรรมโดย บริบูรณ์ พระองค์เสด็จมาเพื่อประทานสุขภาพที่สุขสมบูรณ์ สันติสุขและ ลักษณะนิสัยที่สมบรณ์แบบให้แก่มวลมนุษย์{MH 1 7.1} MHTh 16.1

บรรดาผู้เข้าไปขอความช่วยเหลือจากพระองค์มีสภาพและความ ต้องการที่แตกต่างก่น ผู้ที่มาหาพระองค์ไม่มีสักคนที่จากไปโดยที่ไม่ได้ รับพระเมตตา กระแสธารแห่งฤทธิ้อำนาจการรักษาพรั่งพรูมาจากพระองค์ ได้เยียวยาสภาพทางกาย จิตใจและจิตวิญญาณของมนุษย็ให้หายจนหมด สิ้น {MH 1 7.2} MHTh 16.2

พระราชกิจของพระผู้ช่วยให้รอด ไม่จำกัดอยู่กับเวลาหรือสถานที่ พระเมตตาของพระองค์ไม่มืสิ่งใดขีดคั่น พระองค์ทรงประกอบพระราชกิจ ในการรักษาโรคและการสั่งสอนอย่างมากมายจนไม่มีอาคารสิ่งปลูกสร้าง ใด ๆ ในแผ่นดินปาเลสไตน์กว้างใหญ่พอจะรองรับฝูงชนที่เบียดเสียดเข้า ไปห้อมล้อมพระองค์ บนเนินเขาเขียวขจีแห่งแคว้นกาลิลี ตามเส้นทาง สัญจร ริมฝังทะเล ในธรรมศาลาและทุกหนแห่งที่นำคนป่วยไปพบพระองค์ ได้กลายเป็นสถานพยาบาลสำหรับรักษาคนเจ็บป่วยของพระเยซ หัว- เมืองใหญ่ เมืองเล็ก หมู่บ้านทุกแห่งที่พระองค์เสด็จผ่านไป ทรงวาง พระหัตถ์ลงบนคนที่เจ็บป่วยทรมานและรักษาพวกเขาให้หาย ไม่ว่าแห่ง ใดที่มืประชาชนเตรียมจิตใจพร้อมรับฟังข่าวประเสริฐของพระองค์ ทรง ปลอบใจของพวกเขาให้มั่นใจในความรักของพระบิดาบนสวรรค์ พระองค์ ทรงให้การบำบ้ดรักษาแก่ผู้ที่มาหาพระองค์ตลอดทั้งวัน ส่วนในตอนเย็น พระองค์ทรงเอาใจใส่ดูแลคนที่ตรากตรำทำงานหนักตลอดทั้งวันเพื่อจะ ได้ค่าจ้างเพียงน้อยนิดไปเลี้ยงดูครอบครัว {MH 17.3} MHTh 17.1

พระเยซูทรงแบกความรับผิดชอบอันหนักหน่วงเพื่อความรอดของ มวลมนุษย์ พระองค์ทรงตระหนักดิว่า หากมนุษยชาติไม่เปลี่ยนแปลง หลักการและความมุ่งหมายในชีวิตอย่างจริงจังแล้ว คนทั้งโลกจะสูญสิ้น เป็นแน่ นี่คือความทุกข์ที่อยู่ในพระทัยของพระองค์ ไม่มืผูใดรู้ซึ้งถึงภาระ หน่กททบถมอยู่นื้ ดั้งแต่ทรงพระเยาว ในว้ยหนุ่ม จนกระทั่งเติบ ใหญ่ พระองค์ทรงดำเนินชีวิตตามลำพัง ถึงกระนั้น สวรรค์มาอยู่หน้าพระพักตร์ ของพระองค์ วันแล้ววันเล่าที่พระองค์ต้องทรงประสบกับความทุกข์ยากและ การถูกทดลอง วันแล้ววันเล่าที่พระองค์ต้องสัมผัสกับความชั่วร้ายและเห็น ถึงอำนาจครอบงำของ มันที่อยู่เหนือคนทั้งหลายที่พระองค์ทรงแสวงหา เพื่ออำนวยพรและช่วยให้รอดพ้น กระนั้นก็ตาม พระองค์ไม่คิดล้มเลิกหรือ ท้อถอยแม้แต่น้อย {MH 18.1} MHTh 17.2

ความปรารถนาทุกอย่างของพระองค์ ทรงระงับไว้อยู่ภายใต้พระราช¬กจของพระองค์อย่างเคร่งครัด พระเยซูทรงให้เกียรติแก่ชีวิตของพระองค์ ด้วยการปฏิบัติทุกสิ่งภายใต้พระประสงค์ของพระบิดาของพระองค์ ครั้ง เมื่อทรงเยาว์วัย มารดาของพระองค์ใต้ตามหา พบพระองค์อยู่ในโรงเรียน ของพวกรับบิ (อาจารย์) และนางกล่าวว่า “ลูกเอ๋ย ทำไมจึงทำกับเรา อย่างนี่?, พระองค์ตรัสตอบว่า “พ่อกับแม่ตามหาลูกทำไม พ่อกับแม่ไม่รู้ หรือว่า ลูกต้องอยู่ในพระนิเวศของพระบิดา,, ลูกา 2:48, 49 คำตอบของ พระองค์นี้เองได้แสดงถึงหัวใจสำดัญของพระราชกิจในชีวิตของพระองค์ {MH 1 9.1} MHTh 18.1

ชีวิตของพระองค์ เป็นชีวิตแห่งการเสียสละเพื่อผู้อื่น พระองค์ไม่มี บ้านเรือนในโลกนี้ นอกจากได้รับความเอื้อเฟื้อจากมิตรสหายที่เตรียมไว้ สำหรับพระองค์ใต้พักพิงเหมือนคนพเนจร พระองค์เสด็จมาเพื่อใช้ชีวิต เยี่ยงสามัญชนผู้ยากไร้ที่สุด ทรงดำเนินชีวิตคลุกคลีอยู่กับหมู่ชนที่ขัดสน และทุกข์ยากเพื่อเห็นแก่เรา ทรงดำเนินชีวิตอยู่ท่ามกลางประชาชนที่ พระองค์ใต้ทรงกระทำคุณไว้อย่างมากมาย ถึงกระนั้น คนเหล่านั้นกลับ ไม่ร้ซึ้งถึงคณค่าหรือถวายพระเกียรติยศแด่พระองค์ {MH 19.2} MHTh 18.2

พระองค์ทรงอดทนและมีพระทัยชื่นบานอยู่เสมอ และผู้ที่ตกอยู่ใน ความทุกข์ยากต่างสรรเสริญพระองค์ว่าเป็นผู้นำความหวังแห่งชีวิตและ สันติสุขมาให้ พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นถึงความต้องการของบรรดา ชายหญิง เด็ก และคนหนุ่มสาว พระองค์ประทานคำเชิญแก่ทุกคนว่า “เชิญมาหาเรา,, {MH 1 9.3} MHTh 18.3

ตลอดชีวิตแห่งการรับใช้ของพระเยซู พระองค์ได้ทรงอุทิศเวลา รักษาคนเจ็บป่วยมากกว่าการเทศนาสั่งสอน การทำอัศจรรย์ของพระองค์ เป็นพยานว่าพระดำรัสของพระองค์เป็นความจริง พระองค์เสด็จมาไม่ใช่ เพื่อมาทำลายแต่มาเพื่อช่วยให้รอดพ้นไม่ว่าพระองค์เสด็จไปแห่งหนใด ข่าวแห่งพระคุณของพระองค์ถูกป่าวร้องก่อนล่วงหน้า ตามสถานที่พระองค์ เสด็จผ่านไป ผู้ที่ได้รับพระเมตตาจากพระองค์ต่างชื่นชมยินดีที่สุขภาพ กลบมาสมบูรณ์แข็งแรง ได้ทดสอบกำลังวังชาที่ได้รับมาใหม่ ผู้คนเป็น จำนวนมากต่างเข้าไปห้อมล้อมคนเหล่านั้น เพื่อจะฟังถ้อยคำจากปากของ เขาถึงราชกิจที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำ หลายคนไดยินพระสุรเสียง ของพระองค์เป็นครั้งแรก พวกเขากล่าวถึงพระนามของพระองค์เป็นคำ แรก พระพกตร็ของพระองค์เป็นสิ่งแรกที่พวกเขาได้เห็น เหตุใดพวกเขา จะไม่รักพระเยซูและสรรเสริญพระองค์เล่า ในขณะที่พระองค์เสด็จผ่านไป ตามหัวเมืองน้อยใหญ่นั้น ทรงเปรียบเสมือนธารทิพย์ที่ไหลริน นำชีวิต และความปีติยินดีแพร่กระจายไป MHTh 18.4

“แควันเศบูลุนและแควันนัฟทาลี
ที่อยู่บนทางไปยังทะเลและฝังแม่นํ้าจอร์แดนข้างโน้น
กาลีลีของพวกต่างชาติ
ประชาชนผู้นั่งอยู่ในความมืด
ได้เห็นความสว่างยิ่งใหญ่
และผู้ที่นั่งอยู่ในแดนและเงาแห่งความตาย
ก็มืความสว่างขึ้นส่องถึงเขาแล้ว’,
MHTh 19.1

มัทธิว 4:1 5, 16 {MH 1 9.4}

พระผู้ช่วยให้รอดทรงใช้ราชกิจของการรักษาโรคทุกครั้งเพื่อเป็น โอกาสปลูกฝังหลักการของพระเจ้าให้ซึมซับเข้าสู่จิตใจและจิตวิญญาณ สิ่งนี้คือจุดมุ่งหมายพระราชกิจของพระองค์ พระองค์ประทานพระพร ทางฝ่ายโลกเพื่อที่จะสามารถโน้มน้าวให็จิตใจของมนุษย์ให้ยอมรับข่าว ประเสริฐแห่งพระคุณของพระองค์{MH 20.1} MHTh 19.2

พระคริสต์ทรงน่าจะได้รับตำแหน่งสูงที่สุดในหมู่อาจารย์ของชนชาติ ยิว แต่พระองค์ทรงพอพระทัยที่จะน่าข่าวประเสริฐไปเผยแพร่แก่คนยาก จนมากกว่า พระองค์เสด็จรอนแรมไปตามที่ต่างๆ เพื่อประชาชนที่อยู่ตาม หนทางสัญจรน้อยใหญ่จะได็ยินพระวจนะแห่งความจริง ชายฝังริมทะเล บนเนินเขา ตามถนนหนทางในเมือง ในธรรมศาลา จะได็ยินพระสุรเสียง ของพระองค์อธิบายพระคัมภีร์ หลายครั้งที่พระองค์ทรงสั่งสอนอยู่ในลาน วิหารชั้นนอก เพื่อคนต่างชาติจะได้ฟังพระดำรัสของพระองค์{MH 20.2} MHTh 19.3

คำสั่งสอนของพระคริสต์ดึงดูดความสนใจจากประชาชน เป็นคำสอน ที่แตกต่างจากการอธิบายพระคัมภีร์บองพวกธรรมจารย์และฟาริสี พวก รับบีต่างจมอยู่กับขนบธรรมเนียมประเพณี ความเห็นของมนุษย์ บัญญ้ติ และกฎเกณฑ์ต่างๆ บ่อยครั้งที่พวกเขานำเอาคำสอนมนุษย์ซึ่งเขียนถึง เรื่องราวของพระคัมภีร์มาใช้แทนข้อความในพระคัมภีร์ ใจความในคำสอน ของพระคริสต์เป็นพระวจนะของพระเจ้า พระองค์ตรัสแก่คนที่ซักถามด้วย คำตอบชัดเจนว่า “ มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า’, “พระคัมภีร์ว่าอย่างไว” “ฟาน ได้อ่านเข้าใจอย่างไร” ในทุกโอกาสเมื่อมิตรหรือศัตรูปลุกให้เกิดความ สนใจ พระองค์ทรงใช้พระวจนะของพระเจ้าอธิบายให้เกิดความเข้าใจ ข่าวประเสริฐอย่างกระจ่างแจ้งด้วยพลังอำนาจ พระดำรัสของพระองค์ดุจ ลำแสงเจิดจ้าที่ฉายส่อง ทำให้มนุษย์ใด้ประจักษ์คำสั่งสอนของบรรพชน และผู้เผยพระวจนะ เปิดเผยให้เห็นความหมายในพระคัมภีร์แบบใหม่ ที่ ผู้ฟังพระวจนะของพระเจ้าต่างเกิดความเข้าใจลึกซึ้งอย่างที่ไม่เคยเป็น มาก่อน {MH 21.1} MHTh 20.1

ไม่เคยมิผู้เผยแพร่ศาสนาคนใดที่เป็นเหมือนพระคริสต์ พระองค์ ทรงเป็นผู้ทรงเดชานุภาพแห่งสวรรค์ แต่ได้ถ่อมพระองค์ลงมารับสภาพ มนุษย์ เพื่อจะเข้าถึงสภาพของมนุษย์อย่างที่เขาเป็นอยู่ พระคริสต์ผู้ดำรง เป็นทูตแห่งพันธสัญญา พระองค์นำข่าวแห่งความรอดมาประกาศแก่คน ทั้งปวงทั้งคนมั่งมิและคนยากจน ทั้งไทและทาส กิตติศัพท์ของพระองค์!,น ฐานะแพทย์ผู้ประเสริฐได้เลื่องลือไปทั่วเขตแดนปาเลสไตน์ คนเจ็บคนป่วย พากันไปตามสถานที่ตามเส้นทางที่พระองค์จะเสด็จผ่าน เพื่อทูลขอให้ พระองค์ช่วยเหลือพวกเขา ขณะเดียวกัน ตามสถานที่เหล่านี้ มีผู้’คน จำนวนมากที่กระหายอยากฟังพระดำรัสของพระองค์และเพื่อจะให้ พระหัตถ์ของพระองค์สัมผัสพวกเขา ด้วยเหตุนี้กษัตริย์ผู้ทรงสง่าราศี ผู้ สวมเสื้อผ้าอันตาต้อยเหมือนคนทั่วไป เสด็จไปตามหัวเมืองน้อยใหญ่ เพื่อ จะเทศนาสั่งสอนข่าวดีอันประเสริฐและรักษาคนเจ็บคนป่วยให้หาย {MH 22.1} MHTh 20.2

พระองค์เสด็จไปงานเลี้ยงฉลองประจำปีของชาติ ในขณะที่ฝูงชน จดจ่ออยู่กับพิธีกรรมภายนอกนั้น พระองค์ตรัสถึงสิ่งที่อยู่ฝ่ายสวรรค์และ ชี้ให้พวกเขาเห็นถึงสิ่งที่เป็นนิรันดร พระองค์ทรงนำทรัพย์สมบตจากคลัง แห่งสติปัญญามามอบให้แก่คนทั้งหลาย ตรัสกับพวกเขาด้วยภาษาง่าย ๆ เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ทรงช่วยเหลือผู้ทุกข์ใจและโศกเศร้าด้วยวิธีเฉพาะ ของพระองค์ รับใช้จิตวิญญาณที่เจ็บป่วยด้วยโรคแห่งความบาป ทั้งทรง รักษา เสริมความเข้มแข็งด้วยพระกรุณาและเอื้อเฟื้อ {MH 22.2} MHTh 21.1

พระบรมครู ทรงแสวงหาทางเข้าถึงผู้คนโดยการเชื่อมโยงเข้ากับสิ่ง ใกล้ตัวที่เขาคุ้นเคยมากที่สุด พระองค์ทรงอธิบายถึงความจริงด้วยวิธีการ ที่จะทำให้ผู้ที่ได็ยิน สามารถนำความจริงที่ประสานให้เข้ากับความทรงจำ และความเห็นพ้องมาทบทวนใหม่ในภายหลังได็อึก พระองค์ทรงสั่งสอน ด้วยวิธิที่ทำให้พวกเขาได้สัมผั สถึงพันธะของพระองค์ที่เป็นประโยชน์ และความสุขของพวกเขานั้นว่ามีอยู่อย่างเต็มเปียม คำสั่งสอนของพระองค์ ตรงจุด อุทาหรณ์ที่พระองค์ทรงยกมาแสดงก็เหมาะสมยิ่งนัก พระดำรัส ของพระองค์เปียมไปด้วยความเมตตาและความชื่นบาน ทำให้ผู้ที่ไดํยน ต่างประทับใจ ความเรียบง่ายและความจริงใจที่พระองค์ตรัสกับคน ยากจน ทำให้ทุกถ้อยคำนั้นทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ้ {MH 23.1} MHTh 21.2

พระราชกิจตลอดชีวิตของพระองค์มีอยู่นานัปการ แต่ละวันจะพบ เห็นพระองค์เสด็จไปยังบ้านเรือนที่ตาต้อยของคนยากจนและผู้มีความ ทุกข์ ตรัสถ้อยคำแห่งความหวังให้แก่ผู้ท้อถอยหมดกำลังใจ ประทาน สันติสุขแก่คนที่ตกทุกข์ใต้ยาก ด้วยพระเมตตา ด้วยพระทัยอ่อนโยน และเปียมไปด้วยความสงสารพระองค์เสด็จไปตามที่ต่างๆ เพื่อยกผู้ถูก กดขี่ขึ้นและปลอบใจของคนที่โศกเศร้า ไม่ว่าแห่งใดที่พระองค์เสด็จไป ทรงนำพระพรไปด้วยเสมอ {MH 24.1} MHTh 21.3

ขณะที่พระเยซูทรงรับใช้คนยากจนนั้น พระองค์ทรงศึกษาหาวิธี ที่เข้าถึงคนรั่ารวยด้วย พระองค์ทรงแสวงหาทางผูกมิตรกับคนฟาริสีผู้ มั่งคั๋งและมีความรู้สูง ขุนนางชาวยิวและผู้ปกครองชาวโรมัน พระองค์ทรง ตอบรับคำเชิญ และเสด็จไปร่วมงานเลี้ยง ทรงทำความคุ้นเคยด้วยการ สนพระทัยในความสนใจและการงานของพวกเขา เพื่อที่จะเข้าถึงจิตใจ ของคนเหล่านั้น และเผยให้เห็นถึงทรัพย์สมบตที่จะดำรงอยู่ตลอด นิรันดร {MH 24.2} MHTh 22.1

พระคริสต์เสด็จเข้ามาในโลกเพื่อแสดงให้เห็นว่า มนุษย์สามารถ ดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ้ชอบธรรมไต้เมื่อรับฤทธิ์อำนาจจากเบื้องบน พระองค์ ทรงเพิ่มเติมสิ่งจำเป็นให้แก่คนขัดสน ด้วยพระทัยอดทนโดยไม่ระย่อ และ ช่วยเหลือด้วยพระทัยเมตตา พระองค์ทรงขจัดความวุ่นวายใจและความ เคลือบแคลงสงสัยออกไปจากจิตใจ ด้วยสัมผัสแห่งพระคุณอันอ่อนโยน ทรงเปลี่ยนความเป็นศัตรูให้กลายเป็นความรักและความไม่เชื่อให้กลาย เป็นความไว้วางใจ {MH 25.1} MHTh 22.2

พระองด๊ตร้สถับผูัที่พระองค์ทรงพอพระทัััยว่า “จงตามเรามา” จากนั้นคนที่พระองค์ทรงกล่าวถึงลุกขึ้นและติดตามพระองค์ไป ความ ลุ่มหลงในโลกที่เคยครอบงำอยู่มลายสิ้น เมื่อพวกเขาได้ยินพระสุรเสียง ของพระองค์ วิญญาณแห่งความโลภและความทะยานผละหนีไปจาก จิดใจ และคนเหล่ามั้นก็ไดัรับการปลด เปลื้องจาพัันธนาการ จึงลุกยึ้น และติดตามพระผู้ช่วยให้รอดไป {MH 25.2} MHTh 22.3