ปลายทาง แห่งความหวัง

20/76

เทพผู้พิทักษ์

เทพผู้พิทักษ์ได้ริบมอบหมายให้คอยดูแลผู้ติดตามพระคริสต์ ทุกคน “ทูตสวรรค์ของพระเจ้าได้ตั้งค่ายล้อมบรรดาผู้ที่เกรงกลัวพระองค์ และช่วยเขาทั้งหลายให้รอด” พระผู้ช่วยให้รอดทรงตรัสกับผู้ที่เซื่อพระองค์ ว่า “ทูตสวรรค์ประจำของเขาเฝัาอยู่เสมอต่อพระพักตร์พระบิดาของเรา ผู้สถิตในสวรรค์” (สดุดี 34:7; ม้ทธิว 18:10) ประชากรของพระเจ้าเปิดเผย ตัวเองต่อเจ้าแห่งความมืดผู้ชั่วร้ายที่ไม่เคยหลับไหล ได้ริบประกันความ คุ้มครองจากทูตสวรรค์ตลอดเวลาไม่มีสิ้นสุด เหตุที่มอบความมั่นใจนี้ให้ ก็เพราะเขาจะต้องเผชิญกับมนุษย์แห่งความชั่วร้ายที่มีกำลังมหาศาล สมุนเหล่านี้มีจำนวนมากมาย มีความตั้งใจจริง และไม่เคยเหนื่อยล้า ต่อหน้าที่ GrHTh 20.2

วิญญาณชั่วเหล่านี้แต่เดิมถูกสร้างให้เป็นผู้ไรับาป มีความเท่าเทียม ก้นในด้านลักษณะนิสัย อำนาจ และสง่าราศีที่บริสุทธิ้เท่าเทียมกับเหล่า ทูตที่รับใช้เป็นผู้สื่อข่าวของพระเจ้าในเวลานี้ แต่เมื่อพวกเขาได้หลงผิด ทำบาป จึงร่วมใจไม่ถวายเกียรติพระเจ้า และเพื่อการทำลายมนุษย์ ร่วมมือกับซาตานในการทำสงครามต่อสู้กับสิทธิอำนาจของพระเจ้า GrHTh 21.1

ประว้ติศาสตร์ของพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม ได้กล่าวถึงการดำรง อยู่ของพวกม้น แม้ขณะที่พระคริสต์ทรงมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ วิญญาณชั่ว ได้สำแดงอำนาจของพวกมันออกมาให้เห็นชัดเจนที่สุด พระคริสต์ได้ เสด็จมาเพื่อจะช่วยมนุษย์ได้รับความรอดพัน ขณะเดียวกันซาตานก็ พยายามจะครอบครองโลก มันได้รับความสำเร็จในการสร้างการกราบไหว้ รูปเคารพในทุกส่วนของแผ่นดินโลก ยกเว้นในปาเลสไตน์ ดินแดนแห่ง เดียวที่ยังไม่ยอมอยู่ภายใต้การครอบครองของจอมหลอกลวงอย่าง เต็มที่ พระคริสต์โต้เสด็จมา พระองค์ทรงกางพระกรแห่งความรักของ พระองค์เชิญให้ทุกคนมารับการอภัยบาปและมีสันติสุขในพระองค์ เหล่า ทูตแห่งความมีดเช้าใจดีว่า หากภารกิจของพระคริสต์โต้รับความสำเร็จ เป็นอย่างดี การครอบครองของมันก็จะถึงกาลอวสานในไม่ช้า GrHTh 21.2

พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับคนที่ ถูกผีสิง เขาไม่เพียงแต่ได้รับความทุกข์ทรมานเพราะโรคภัยไข้เจ็บจาก สาเหตุตามธรรมชาติเท่านั้น พระคริสต์ทรงทราบดีถึงการปรากฏโดยตรง ของวิญญาณชั่วและสมุนของมัน ผีสิงชายเคราะห์ร้ายที่เมืองกาดารา เหล่านี้นเพ้อคลั่ง ดิ้นรนไปมา มีนาลายฟูมปาก ทำร้ายตัวเองและทำร้าย ทุกคนที่เช้าใกล้ เจ้าแห่งความมีดมีความพอใจที่เห็นสภาพของคนที่ ถูกผีสิง มีเลือดไหลโทรมกาย และร่างกายที่เสียโฉม และมีสติฟันเฟือน ผีตนหนึ่งที่เช้าสิงทั้งสองคนนี้นรัองขึ้นว่ามันชื่อกอง “เพราะว่าพวกช้า พระองค์หลายตนด้วยกัน” (มาระโก 5:9) GrHTh 21.3

ในกองท้พของโรม้น กองหนึ่งมีทหารสามพ้นถึงห้าพ้นคน เมื่อ พระเยซูทรงสั่งให้วิญญาณชั่วนั้นออกจากร่างเหยื่อของมันแล้ว เขาทั้งสอง ก็กล้บมีกิริยาท่าทางที่สุภาพเรียบร้อย มีสติส้มปช้ญญะเหมือนเดิม แต่ ผีเหล่านี้ได้พากันเข้าสิงฝูงสุกรจากนั้นกระโดดลงทะเล สำหรับชาวเมือง กาดารา เขาได้สูญเสียพระพรที่ทรงประทานให้ซึ่งมีค่ายิ่งกว่า เพราะแพทย์ ผู้ประเสริฐถูกขับไล่ให้ออกจากเมืองนั้น (มัทธิว 8:22-34) ซาตานได้โยน ความผิดไปที่พระเยซูว่า เป็นด้นเหตุทำให้ประซาซนต้องสูญเสียฝูงสุกร ไปและขัดขวางไม่ให้ฟังพระวจนะของพระองค์ GrHTh 22.1

พระคริสต์ทรงอนุญาตให้วิญญาณชั่วเหล่านั้นเข้าทำลายสุกร ก็เพื่อ เป็นการตำหนิพวกยิวที่เลี้ยงส้ตว์ไม่สะอาดเพราะหวังผลกำไรถ้าพระองค์ ไม่ทรงห้ามผีเหล่านั้น มันไม่เพียงจะทำลายฝูงสุกรเท่านั้น แต่มันจะ ทำลายคนเลี้ยงและเจ้าของสุกรเหล่านั้นให้กระโดดลงทะเลตายไปด้วย GrHTh 22.2

ยิ่งกว่านั้น การอนุญาตให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ก็เพื่อให้เหล่าสาวก ของพระองค์ใด้เห็นถึงอำนาจของซาตานที่มีอยู่เหนือมนุษย์และสัตว์ เพื่อ จะไม่ถูกล่อลวงด้วยกลอุบายของมัน อีกประการหนึ่ง ทรงต้องการให้ ประซาซนได้เห็นถึงฤทธอำนาจของพระองค์ที่สามารถช่วยพวกเขา ให้พ้นจากพันธนาการของชาตาน และปลดปล่อยผู้ถูกจองจำ ถึงแม้ พระคริสต์จะเสด็จจากเมืองนี้ไป แต่ชายที่ได้รับการปลดปล่อยอย่าง อัศจรรย์เหล่านั้นย้งอยู่ในเมืองนี้ต่อไป เพื่อประกาศถึงความเมตตาของ พระผู้ทรงอุปการะคุณเขาต่อไป GrHTh 22.3

ยังมีเรื่องราวที่ได้บ้นทึกไว้เช่นเดียวกันนี้ เรื่องบุตรสาวของหญิง ชาวเมืองซีเรียฟันิเซียที่ถูกผีสิงทรมานรบกวน พระเยซูได้ทรงขับไล่ออก ไปด้วยพระดำรัสของพระองค์ (มาระโก 7:26-30) เด็กหนุ่มคนหนึ่งถูก ผีสิง ผีนั้นทำให้เขาตกในไฟและในนั้าบ่อยๆ หมายจะฆ่าเสียให้ตาย” (มาระโก 9:17-27) ชายคนหนึ่งในเมืองคาเปอรนาอูม (สูกา 4:33-36) พระผู้ช่วยให้รอดได้ทรงร้กษาให้ทุกคนรับรู้ ทรงสั่งห้ามไม่ให้มันรบกวน เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายอีกต่อไป บรรดาคนที่นมัสการที่ธรรมศาลาในเมือง คาฟอรนาอูมประหลาดใจต่างพากันพูดว่า “คนนี้เป็นอย่างไรหนอ เพราะ ว่าท่านได้สั่งผีโสโครกด้วยสิทธิอำนาจและด้วยฤทธิ๋เดชมันก็ออกมา” (ลูกา 5:36) GrHTh 22.4

บางคนที่ต้องการอยากมีอำนาจเหนือธรรมชาติ จึงยินดีรับเอา อิทธิพลของชาตานเข้ามา การกระทำนี้จะไม่ขัดแย้งกับภูตผีทั้งหลาย อย่างแน่นอน คนที่มีผีเป็นพวกเหล่านี้เคยรับเอาวิญญาณของพระเจ้า มาก่อน เช่น ซีโมน มากัส เอลีมาสคนทำวิทยาคม และหญิงสาวคนหนึ่ง ผู้ที่ได้ติดตามเปาโลและสิลาสที่เมืองฟัลิปปี (กิจการ 8:9, 18; 13:8; 16:16-18) GrHTh 23.1

ไม่มีอันตรายใด ๆ ที่จะร้ายแรงยิ่งไปกว่าการที่คนเหล่านี้นไม่ยอมรับ ว่าซาตานและเหล่าทูตที่เป็นสมุนของมันมือยู่จริง คนจำนวนมากสนใจฟัง คำแนะน่าของภูตผีเหล่านี้น แทนที่จะทำตามสติปัญญาของตนเอง ขณะที่ เราเข้ามาใกล้วาระสุดท้าย เมื่อชาตานกาล้งใช้อำนาจอันยิ่งใหญ่ของมัน เพื่อการล่อลวง ได้กระจายความเชื่อว่ามันไม่มีอยู่จริงไปทั่วทุกหนทุกแห่ง นึ่คือกลอุบายของมันเองที่จะช่อนตัวและซ่อนการดำเนินงานของมันไว้ GrHTh 23.2

จอมหลอกลวงผู้ยื่งใหญ่เกรงว่าเราจะล่วงรู้กลอุบายของมัน เพื่อ จะปีดบ้งอำพรางสันดานที่แท้จริงของมัน ด้วยการทำตัวให้ถูกเยาะเย้ย และดูหมื่น มันมีความพอใจที่ถูกวาดเป็นภาพรูปร่างของมันเลอะเทอะ น่าขบข้น มีรูปร่างพิกลพิการ ครึ่งสัตว์ครึ่งคน มันมีความพอใจเมื่อได้ยิน คนเอาชื่อของมันไปพูดล้อเลียนและเยาะเย้ย เพราะเหตุที่มันอำพราง ตัวเองด้วยวิธีการอันแนบเนียนนี้เอง จึงมีคำถามไปทั่วว่า “สิ่งที่ว่ามีอยู่จริง หรือ” เพราะเหตุที่ซาตานมีความสามารถพร้อมในการควบคุมจิตใจของ บรรดาผู้ที่ไม่รู้สึกตัวถึงอิทธิพลของมันนี่เอง พระวจนะของพระเจ้าจึงเป็ด เผยอำนาจอันเร้นสับของมันให้เห็น จึงทำให้เราระมัดระรังตัว GrHTh 23.3

เราจะพบที่พึ่งพิงและการช่วยกู้จากฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของ พระผู้ไถ่ของเรา เราระมัดระวังปีดประตูบ้านด้วยกลอนและกุญแจอย่าง แน่นหนา เพื่อร้กษาทรัพย์สินและชีวิตของเราให้รอดพ้นจากโจรร้าย แต่ ไม่ค่อยคิดถึงการโจมตีของทูตสวรรค์ชั่ว หาทางต่อสู้ด้วยกำล้งของตนเอง โดยไม่มีการป้องก้น หากเมื่อใดที่มันได้รับอนุญาต พวกมันก็สามารถ ที่จะทำให้จิตใจเราสับสน ทรมานร่างกาย ทำลายทั้งทรัพย์สินและชีวิต ของเรา แต่บรรดาผู้ติดตามพระคริสต์จะปลอดก้ยภายใต้การดูแลของ พระองค์ เหล่าทูตสวรรค์ผู้มีกำสังอันเก่งอาจถูกส่งไปพิทักษ์รักษาคน เหล่านี้ ไม่มีสิ่งชั่วร้ายใดสามารถฝ่าวงล้อมของเทพผู้พิทักษ์ที่พระเจ้า ทรงให้เฝืาดูแลประชากรของพระองค์ใต้ GrHTh 24.1

***** GrHTh 24.2