ปลายทาง แห่งความหวัง

42/76

ไม่รู้จักประมาณตนสร้างมลทินแก่ผู้อื่น

ศาลยุติธรรมมีการทุจริต ผู้นำทางการเมืองถูกกระตุ้นด้วยความ โลภแสวงหาแต่ผลประโยชน์ และความสุขทางกาย ขาดการประมาณ ตน จนซาตานเกือบมีอำนาจควบคุมชีวิตของเขาหมดสิ้น ทนายความ บิดเบือน รับสินบน หลอกลวง การเสพสุรามึนเมาและสำมะเลเทเมา ความไม่ซึ่อสัตย์ทุกอย่างมีอยู่ในหมู่คนผู้ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย บ้ดนี้เมื่อซาตานไม่สามารถจะบังคับคนทั้งหลายในโลกให้อยู่ภายใต้อำนาจ ของบัน ด้วยการกีดกันไม่ให้อ่านพระคัมภีร์ บันพยายามหาทางใช้วิธีอื่น เพื่อจะทำให้สำเร็จตามความมุ่งหมายอ้นเดียวกัน การทำลายความเชื่อ ในพระคัมภีร์ก็เหมือนการทำลายพระคัมภีร์ GrHTh 62.2

ในยุคก่อนซาตานไต้อาศัยคริสตจักรเป็นเครื่องมือสำหรับดำเนิน กิจการเพื่อทำให้แผนงานการต่อสู้กับความจริงของบันไม่เป็นที่นิยม ในพระคัมภีร์ไต้รับความสำเร็จ พวกเขายอมการดีความหมายที่นำไป สู่การหว่านเมล็ดพืชแห่งความสงสัย ยึดติดกับความไม่ถูกต้องของ สันตะปาปาเกี่ยวกับธรรมชาติอ้นไม่รู้จักตายของมนุษย์ และคนตายแล้ว ยังมีความรู้สึก พวกเขาปฏิเสธสิ่งเดียวที่ช่วยปกป้องและต่อสู้การล่อลวง ของลัทธิทรงวิญญาณ หลักความเชื่อการทรมานตลอดกาลไต้ซักนำคน จำนวนมากไม่เชื่อพระคัมภีร์ ขณะที่มืการประกาศเตือนเรื่องพระบัญญัติ ข้อที่สิ่ ซึ่งกล่าวว่าเมื่อผู้ใดค้นพบและรักษาจันสะบาโตวันที่เจ็ดจะมื ความชื่นชมยินดี และเป็นวิธีเดียวเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นจากภาระหน้าที่ ที่เขาไม่เต็มใจปฏิบัติ แต่ด้วยความกลัวบรรดาผู้นำด้านศาสนาผู้มืชื่อ เสียง กลับละทิ้งพระบัญญัติของพระเจ้าและจันสะบาโตเสียสิ้น เมื่อมี การรวมตัวถือจันสะบาโตขยายออกไป การปฏิเสธพระบัญญัติของพระเจ้า เพื่อหลีกเลี่ยงพระบัญญัติข้อที่สิ่จะเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ผู้นำศาสนา ไต้เปิดช่องทางให้แก่การละทิ้งศาสนา ลัทธิทรงวิญญาณและการดูหมิ่น พระบัญญัติของพระเจ้า ทั้งหมดนี้เป็นต้นเหตุอ้นนำกลัวอย่างยิ่งซึ่งมีผล ต่อความไร้ศีลธรรมที่เกิดขึ้นในแวดวงคริสเตียน GrHTh 63.1

แต่ผู้นำเหล่านี้กลับอ้างว่า การบังคับให้ถือจ้นอาทิตย์จะช่วยพยุงให้ ศีลธรรมในสังคมดีขึ้น กลอุบายอย่างหนึ่งของซาตานคือ การเอาความจริง มาผสมผสานกับความเท็จไต้อย่างเหมาะเจาะเพื่อบันจะไต้รับการยกย่อง บรรดาผู้,นำของกลุ่มผู้ที่ถือจันอาทิตย์อาจสนับสนุน้ให้มีการปรับปรุง แล้ไขหลักการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับพระคัมภีร์ตามที่ประชาชนต้องการ แม้ว่าการเรียกร้องเป็นสิงทีขัดแย้งต่อพระบ้ญญัติของพระเจ้าก็ตาม ส่วนผู้รับใช้ของพระองค์ไม่สามารถเช้ารวมตัวกับพวกเขาไต้ เพราะ ไม่มีเหตุผลเพียงพอเพื่อสน้บสนุนให้ละทิ้งพระบ้ญญ้ติของพระเจ้าแล้ว นำเอากฎเกณฑ์ของมนุษ์มาทดแทน GrHTh 63.2

ชาตานอาศัยความเชื่อผิดสองอย่างคือ ความไม่รู้จักตายของ จิตวิญญาณและความศักดิ้สิทธี่ของจันอาทิตย์ มันจะนำประชาชนให้ ตกอยู่ภายใต้การล่อลวงของมัน ขณะเดียวกันมันคือผู้เริ่มวางรากฐาน ลัทธิทรงวิญญาณซึ่งตามมาทีหล้งก็สร้างความสัมพันธ์เพื่อเอาใจโรม นิกายโปรเตสแตนทีในสหรัฐจะเป็นผู้นำแนวหน้าในการนำคนทิ้งหลาย ให้ติดต่อเกี่ยวช้องกับกลุ่มที่เชื่อในลัทธิทรงวิญญาณ พวกเขาจะก้าว ข้ามเหวลึกไปเพื่อจับมือกับสันตะปาปาแห่งโรม และภายใต้อิทธิพลของ พันธมิตรทิ้งสามฝ่าย ประเทศนี้ (สหรัฐอเมริกา) จะทำตามแบบอย่าง ของคริสตจักรแห่งโรมในการเหยียบย์าสิทธิของใจสำนึกผิดชอบ GrHTh 64.1

ขณะที่ลัทธิทรงวิญญาณเลียนแบบอย่างของคริสเตียนในสมัยนี้ ลัทธินี้จึงมีอำนาจหลอกลวงไต้ ขณะที่ชาตาน “เปลี่ยนแปลง” ต้วมันเอง มันจะปรากฏร่างเป็นทูตแห่งความสว่าง ผ่านทางลัทธิทรงวิญญาณจะทำ การอัศจรรย์ รักษาคนป่วยให้หาย และจะทำสิ่งน่าอัศจรรย์ที่ไม่สามารถ ปฏิเสธไต้อีกหลายอย่าง GrHTh 64.2

ฝ่ายของสันตะปาปาซึ่งอ้างการอัศจรรย์ต่าง ๆ ว่าเป็นหมายสำศัญ แท้ของคริสตจักรพร้อมจะนำมาล่อลวงโดยอำนาจการอัศจรรย์นี้และ ฝ่ายโปรเตสแตนท้ที่ละทิ้งโล่แห่งความจริงถูกล่อลวงไปด้วย สันตะปาปา โปรเตสแตนท์และฝ่ายผู้นำโลกจะเช้าร่วมกันเป็นพันธมิตรในขบวนการ ใหญ่เพื่อนำชาวโลกกลับใจใหม่ GrHTh 64.3

ชาตานแสดงตัวราวกับเป็นผู้อุปถัมภ์มนุษยชาติโดยอาศัยลัทธิ ทรงวิญญาณ มีการรักษาโรคและเสนอความเชื่อทางศาสนาระบบใหม่ ในขณะเดียวกันซ้กนำผู้คนจำนวนมากไปสู่ความพินาศ การไม่รู้จัก ประมาณตนเป็นสิ่งที่ไม่ยอมร้บในเหตุผล สิ่งที่จะตามมาก็คือความ มัวเมาในราคะตัณหา การแก่งแย่งชิงดีและการนองเลือด การสงคราม ในจิตใจกระตุ้นให้เกิดตัณหาที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งกวาดเอาเหยื่อลงไปใน ความชั่วร้ายและการสูญเสียเลือดเนื้อตลอดนิรันดร ซาตานมุ่งหมาย ที่จะยุยงส่งเสริมให้ชนชาติต่างๆ สู้รบก้น เพราะโดยวิธีนื้มันสามารถ เบี่ยงเบนจิตใจของประชาชนไม่ให้เตรียมตัวเพื่อยืนอยู่ในว้นของพระเจ้า GrHTh 64.4

ซาตานได้ศึกษาความลํ้าลึกของธรรมชาติ และมันใช้อำนาจ ทั้งหมดของมันบ้งค้บธาตุทั้งสี่ เท่าที่พระเจ้าทรงอนุญาต พระองค์ทรง ปกป้องสรรพสิ่งที่ทรงสร้างให้รอดพ้นจากอำนาจของผู้ทำลาย แต่ใน หมู่คริสเตียนกลับดูหมิ่นเหยียดหยามพระบัญญ้ติของพระองค์ ตังนั้น พระเจ้าจะกระทำทุกสิ่งตามที่ได้ทรงตรัสว่า พระองค์จะยกเอาการตุ้มครอง ไปจากคนที่ล่วงละเมิดพระบัญญัติของพระองค์ และบังตับให้คนอื่นทำ เช่นเดียวก้น ซาตานจะมีอำนาจควบคุมทุกคนที่พระเจ้าไม่ได้ตุ้มครอง เป็นพิเศษ มันจะทำให้บางคนพอใจและทำให้บางคนเจริญขึ้น เพื่อทำ ให้แผนการของมันดำเนินต่อไป และมันจะนำความทุกข์ยากไปสู่คนอื่นๆ และซักจูงให้มนุษย์เชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้นำความทุกข์ยากลำบากเหล่านี้ มาให้เขา GrHTh 65.1

ขณะที่ซาตานแสดงตนเองว่าเป็นแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถ รักษาโรคภัยไข้เจ็บของประชาซนได้ทุกชนิด มันจะนำโรคภัยและความ หายนะมาสู่มนุษย์ด้วย ทำให้ประชาชนในเมืองต่างๆ ลดน้อยเสื่อม โทรมลง ทำให้เกิดภัยพิบัติทางทะเลและทางบก เกิดไฟไหม้ พายุหมุน และพายุลูกเห็บที่นำกลัว เกิดพายุรุนแรง นํ้าท่วม ลมสลาด้น คลื่นยักษ์ และแผ่นดินไหว ชาตานกำลังใช้อำนาจของมัน จากนั้นมันก็จะกวาดล้าง ทำลายพืชผลที่กำลังจะเก็บเกี่ยว แล้วการกันดารอาหารและความทุกข์ ยากก็จะตามมา มันปล่อยเชื้อโรคที่มีพิษไปในอากาศทำให้ผู้คนมากมาย เสียชีวิต GrHTh 65.2

จากนั้นจอมหลอกลวงที่ยิ่งใหญ่จะโน้มน้าวให้มนุษย์กล่าวหาคนที่ ประพฤติตามพระบัญญัติของพระเจ้าเป็นสาเหตุทำให้เกิดความทุกข์ยาก ลำบากเหล่านี้ พิสูจน์ว่าคนเหล่านี้คือผู้ล่วงละเมิดอย่างไม่หยุดหย่อน จะ มีการประกาศว่ามนุษย์ทำให้พระเจ้าขุ่นเคืองพระท้ยเพราะล่วงละเมิด วนอาทิตย์ ความผิดบาปนี้น้าภ้ยพิบัติทั้งหลายให้เกิดขึ๋นอย่างไม่มีสิ้นสุด จนกว่าจะมีการถือวันอาทิตย์อย่างเคร่งครัด “บรรดาคนทำลายการยกย่อง ให้เกียรติวันอาทิตย์ กำล้งข้ดขวางการคืนสู่สภาพเดิม เพื่อเป็นที่พอ พระท้ยและได้รับความมั่งคั่งจากพระจ้า” ด้วยเหตุนี้ถ้อยคำที่เคยตำหนิ ติเตียนผู้รับใช้ของพระเจ้าในสม้ยโบราณ จะถูกน้ามากล่าวซํ้าอีกครั้ง “เมื่ออาหับเห็นเอลียาห์ก็ตรัสกับท่าน นี่ด้วเจ้าหรือเจ้าผู้ทำความลำบาก ให้อิสราเอล” (1 พงศ์กษัตริย์ 18:17, 18) GrHTh 66.1

ฤทธอำนาจทำการอัศจรรย์เพื่อพยายามแผ่อิทธิพลต่อด้าน บรรดาคนที่เชื่อฟังพระเจ้ามากกว่าคนทั่วไป “วิญญาณ” ทั้งหลายจะ ประกาศว่าพระเจ้าได้ทรงส่งพวกเขาให้มาบอกคนที่ปฏิเสธไม่ถือวัน อาทิตย์ให้รู้สำนึกในความผิดของเขา พวกเขาจะครํ่าครวญเพราะมีความชั่ว มากมายในโลก และจากนั้นจะกล่าวยืนยันคำพยานของผู้สอนศาสนาที่ บอกว่า การที่สภาพของศีลธรรมเสื่อมลง เกิดจากการทำให้วันอาทิตย์ หมดความบริสุทธศักดิสิทธิ้ GrHTh 66.2

ภายใต้การปกครองของโรม บรรดาผู้ที่ด้องทนทุกข์เพราะเห็นแก่ ข่าวประเสริฐจะถูกประณามว่าเป็นคนกระทำชั่ว เป็นพวกเดียวก้บชาตาน ในเวลาเดียวก้นนี้ ซาตานก็จะพยายามทำให้บรรดาคนที่ให้เกียรติแก่ พระบัญญัติของพระเจ้าถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้น้าการพิพากษามาสู่โลก ม้นอาศัยความกล้วด้วยการพยายามควบคุมความสำนึกผิดชอบ ผลักดัน ให้ผู้มีอำนาจทางศาสนาและบ้านเมือง บังคับให็ใช้กฎหมายของบ้านเมือง ต่อสู้ท้าทายพระบัญญัติของพระเจ้า GrHTh 66.3

บรรดาคนที่ถือวันสะบาโตของพระคัมภีร์ (วันเสาร์) จะถูกปรับปรำ ว่าเป็นศัตรูต่อกฎหมายและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็น ผู้ละเมิดข้อบังคับของศีลธรรมอันดีงามในส้งคม ทำให้เกิดความสับสน และการทุจริต ประพฤติมิชอบ เป็นเหตุให้พระเจ้าพิพากษาลงโทษมนุษย์ บนแผ่นดินโลก คนเหล่านี้จะถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกที่เกลียดชังรัฐบาล บรรดานักเทศน์ที่ปฏิเสธข้อบังคับพระบัญญ้ติของพระเจ้า จะใช้ธรรมาสน์ เทศนาสั่งสอนให้ประชาชนเชื่อฟังอำนาจของบ้านเมือง บรรดาผู้รักษา พระบัญญัติของพระเจ้าจะถูกปรับโทษในศาล มีการใส่ร้ายป้ายสีในถ้อย คำของเขา และการเสแสร้งสร้างสิ่งเลวร้ายที่สุดใส่ในความมุ่งหมายของเขา GrHTh 67.1

บรรดาผู้มือำนาจในคริสตจักรและรัฐจะรวมตัวก้นชักจูง และบังคับ ประชาชนให้ถือวันอาทิตย์ แม้กระทั่งในอเมริกา ประเทศที่มืเสรีภาพใน ทุกด้าน บรรดาสมาชิกสภาผู้ออกกฎหมาย จะยอมจำนนต่อการเรียกร้อง ของประชาชน ออกกฎหมายบังคับให้ถือวันอาทิตย์ สิทธิเสรีภาพทาง ความคิด (มโนธรรม) ซึ่งได้มาด้วยความเสียสละอย่างสูงของผู้นำใน อดีตก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอีกต่อไป ในความชัดแย้งที่กำลังจะเกิดขึ้นอีก ไม่ช้านี้ เราจะได้เห็นตัวอย่างตามที่ผู้เผยพระวจนะได้พยากรณ์ไว้ว่า “พญานาคโกรธแค้นหญิงนั้น มันจึงออกไปทำสงครามกับพงศ์พันธุของ นางที่เหลืออยู่นั้น ผู้ที่ประพฤติตามพระบัญญัติของพระเจ้าและยึดถือ คำพยานของพระเยซู” (วิวรณ์ 12:17) GrHTh 67.2

***** GrHTh 67.3