คำแนะนำสำหรับคริสต์จักร เล่มที่ 2

92/197

ความเกียจคร้านเป็นความชั่วร้าย

ข้าพเจ้าได้เห็นว่าความผิดบาปมากมายเป็นผลที่เกิด จากความชั่วร้าย ผู้ที่ใช้มือและสมองทำงานอยู่เสมอย่อม ไม่มีเวลาที่จะเชื่อฟังและทำตามการทดลองของซาตานผู้ เป็นศัตรูของพระเจ้า แต่ผู้ที่อยู่ที่ว่าง ๆ โดยไม่ใช้สมองคิด และไม่ใช้มือทำงานย่อมจะตกอยู่ภายใต้อำนาจอันชั่วร้าย ของซาตาน เมื่อเราไม่ใช้สมองของเราคิดอย่างถูกต้อง เราก็จะคิดถึงสิ่งที่ชั่วร้าย บิดามารดาควรสอนบุตรให้ทราบ ว่าความเกียจคร้านเป็นความผิดบาป CChTh 272.1

ไม่มีอะไรที่จะชักนำเด็ก ๆ ไปสู่ความชั่วร้ายได้มาก เท่ากับการที่จะปล่อยให้เด็กเหล่านั้นอยู่ว่าง ๆ โดยไม่ทำ อะไร และมีชีวิตอยู่โดยปราศจากจุดหมายหรือใช้เวลาทำ อะไรๆตามที่เขาพอใจ เด็กๆมีความคิดเฉียบแหลมว่องไว ถ้าบิดามารดาไม่สอนให้บุตรคิดในสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ เด็กเหล่านั้นก็จะหันไปคิดในสิ่งที่ชั่วร้าย แม้ว่าเด็ก ๆ จำ เป็นที่จะต้องมีเวลาพักผ่อนหย่อนอารมณ์ แต่บิดามารดาก็ ควรจะสอนให้บุตรของตนรู้จักทำงาน ให้มีเวลาสำหรับทำ งานออกแรง และมีเวลาสำหรับศึกษาเล่าเรียนและอ่าน หนังสือ บิดามารดาต้องคอยเอาใจใส่ดูแลให้บุตรมีเวลา ทำงานที่เหมาะสมกับอายุของเขา และควรจัดหาหนังสือ ที่มีประโยชน์และน่าสนใจให้บุตรอ่านในเวลาว่างด้วย CChTh 272.2

เด็ก ๆ มักจะลงมือทำงานชิ้นหนึ่งอย่างกระตือรือร้น แต่แล้วก็เกิดเบื่องานที่กำลังทำนั้น และอยากจะเปลี่ยนทำ อะไรบางอย่างใหม่ โดยการกระทำเช่นนี้ เด็กอาจจะทำ อะไร ๆ หลายอย่าง เมื่อรู้สึกเบื่อหน่ายหรือท้อถอยเขาก็ เลิกทำงานเหล่านั้นเสีย ถ้าบิดามารดาปล่อยให้บุตรทำเช่นนี้ ต่อไปเรื่อย ๆ เด็กก็จะกลายเป็นคนจับจด ทำอะไรสำเร็จ เพียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ และทำอะไรไม่ได้ดี บิดามารดาไม่ควร ปล่อยให้บุตรมีนิสัยจัดจดชอบเปลี่ยนทำสิ่งนั้นสิ่งนี้อยู่เสมอ โดยไม่ทำงานที่ทำอยู่ให้สำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน บิดามารดา ไม่ควรใช้เวลาทำงานอย่างอื่นจนไม่มีเวลาอบรมสั่งสอนบุตร ที่กำลังเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและสมอง ถ้าบิดามารดา จะคอยช่วยเหลือแนะนำบุตรในเวลาที่เด็กเหล่านั้นเกิดความ ท้อถอยหรือช่วยบุตรทำงานในเวลาที่เหมาะสมบุตรของเขา ก็จะมีกำลังใจทำงาน และไม่มีความท้อถอยอีก และเด็ก เหล่านั้นจะมีความพอใจเมื่อเขาสามารถทำงานได้สำเร็จตาม ที่มุ่งหมายไว้และเขาจะมีกำลังใจที่จะทำงานใหญ่ๆต่อไปอีก CChTh 273.1

เด็กๆที่เคยได้รับการพะเน้าพะนอเอาอกเอาใจย่อม หวังที่จะได้รับการพะเน้าพะนอจากผู้ใหญ่อยู่เสมอ และถ้า ไม่มีใครเอาอกเอาใจเขาตามที่หวังไว้ เขาก็รู้สึกผิดหวังและ ท้อถอยตลอดชีวิตของเขาเราจะเห็นว่าเขามีความรู้สึกเช่นนี้ เด็ก ๆ เหล่านั้นจะเป็นคนที่ไม่รู้จักพึ่งตัวเองและหวังที่จะได้ รับความช่วยเหลือจากผู้อื่น เขาจะต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่นและ หวังที่จะได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นอยู่เรื่อย ๆ เขาหวัง จะให้ใคร ๆ เอาอกเอาใจและทำตามความปรารถนาของเขา และถ้ามีใครขัดใจเขา(แม้ว่าเขาจะเติบโตเป็นหนุ่มสาวแล้ว) เขาก็คิดว่าเขาถูกกดขี่ข่มเหง คนเหล่านี้มีชีวิตอยู่ในโลก ด้วยความวิตกกังวล และไม่สามารถจะรับผิดขชอบในหน้าที่ ของตนเอง เขามักจะบ่นติเตียนและแสดงความผิดหวังอยู่ เสมอ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เขาปรารถนา CChTh 274.1

ผู้หญิงที่ทำงานของตัวเอง และรับทำงานของคนอื่นๆ ในครอบครัวเสียคนเดียว ได้ทำผิดต่อตัวเองและต่อครอบ- ครัวอย่างมากมาย เมื่อหล่อนขนฟืนเข้ามาในบ้านและตักน้ำ และแม้กระทั่งผ่าฟืนหล่นก็ทำเสียเอง และปล่อยให้สามี และบุตรชายนั่งคุยกันอย่างสบายที่หน้าเตาผิง พระเจ้าไม่มี พระประสงค์ที่จะให้ผู้หญิงที่เป็นภรรยา และมารดาต้องเป็น ทาสของครอบครัว มารดาหลายคนต้องทำงานหนักเกิน กำลังและมีความวิตกกังวล เพราะพวกลูกๆของหล่อนไม่ ได้รับการอบรมสั่งสอนให้ช่วยทำงานในบ้าน ผลที่ได้รับคือ มารดาจะแก่เกินอายุและตายก่อนถึงเวลาอันสมควร และ ทิ้งลูกๆไว้ในเวลาที่เด็กเหล่านั้นต้องการมารดาเป็นผู้แนะนำ สั่งสอนเขามากที่สุด ใครเล่าจะต้องถูกตำหนิในเรื่องนี้? CChTh 274.2

สามีควรพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาสามารถจะทำ ได้ เพื่อจะช่วยแบ่งเบาภาระของภรรยาและช่วยให้ภรรยามีใจ ร่าเริง บิดามารดาไม่ควรปล่อยให้บุตรอยู่เฉย ๆ โดยไม่ช่วย ทำงานในบ้าน เพราะถ้าเด็ก ๆ ไม่ได้ทำการงานอะไร ใน ไม่ช้าเขาก็จะมีนิสัยเกียจคร้าน CChTh 275.1